fbpx

แม่ใจสลายลูกชายถูกรถกระบะชนดับคาที่แล้วหนีไม่รับผิดชอบ

บุรีรัมย์ 10 พ.ค.-แม่หัวใจสลาย ลูกชาย ม.2 นั่งซ้อนท้าย จยย.ลูกพี่ลูกน้องออกไปกดเงิน ขากลับถูกรถกระบะตีนผีพุ่งชนท้ายเสียชีวิตคาที่ แล้วหลบหนีทิ้งร่างกลางถนน วอนคนชนออกมารับผิดชอบและขอขมาศพลูกชายจะได้ตายตาหลับ 


ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านโคกใหญ่ ต.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่า มีอุบัติเหตุสลดใจ รถกระบะชนนักเรียนชายชั้น ม.2 เสียชีวิต และลูกพี่ลูกน้องที่เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนชนหลบหนีไป ไม่จอดลงมาดูหรือช่วยเหลือเลย ปล่อยให้เด็กนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางครอบครัวอยากเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนขับรถกระบะมาดำเนินคดดีตามกฎหมาย  และแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย


จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านของน้องที่ถูกรถชนเสียชีวิต คือ ด.ช.ชิษณุพงศ์ รื่นรส   หรือน้องนิว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.หนองสองห้อง พบว่าทางครอบครัวได้นำร่างของน้องนิว มาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว โดยเฉพาะนางจำปา รื่นรส อายุ 42 ปี ผู้เป็นแม่ ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนนักเรียนที่ทราบข่าวต่างโพสต์แสดงความอาลัยน้องนิว ในสื่อโซเชียลเป็นจำนวนมากด้วย

จากการสอบถามนางจำปา ผู้เป็นแม่ เล่าว่า วันเกิดเหตุลูกชายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไปกับนายกฤษณพงศ์ อรัญ อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพื่อจะไปกดเงินที่ตู้ ATM ในตัวเมืองบุรีรัมย์ ต่อมาเวลาประมาณ 1–2 ทุ่ม มีคนโทรมาบอกว่า รถจักรยานยนต์ที่น้องนั่งไปด้วยถูกรถกระบะพุ่งชนท้าย ทำให้น้องนิวและนายกฤษณพงศ์บาดเจ็บสาหัส บนถนนสายบุรีรัมย์ – นางรอง ขณะขับชิดในเลนขวาเพื่อจะยูเทิร์นกลับเข้าซอยหมู่บ้าน ตนตกใจมากและรีบออกไปดูที่เกิดเหตุ แต่ไปไม่ทัน เนื่องจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว   พอตามไปที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าน้องนิวเสียชีวิตแล้ว โดยคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ที่เกิดเหตุแล้ว ตนรู้สึกเสียใจมาก จนทำอะไรไม่ถูก 

 


นางจำปายังบอกด้วยว่า น้องนิวเป็นเด็กน่ารัก อารมณ์ดี เปิดเทอมนี้ก็จะขึ้น ม.3 แล้ว กำลังจะมีอนาคตที่ดี ไม่คิดว่าจะต้องมาสูญเสียน้องเร็วแบบนี้ แต่ที่เสียใจที่สุดคือ คนขับรถกระบะคันที่ชนทำไมไม่ลงมาดู หรือช่วยเหลือน้องบ้าง กลับขับหลบหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดี และอยากฝากถึงคนขับ หากยังมีจิตสำนึกก็ควรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่สำคัญอยากให้มาขอขมาศพน้องจะได้นอนตายตาหลับ

ขณะที่ ร.ต.อ.มิตร ศรีบุญเรือง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองสองห้อง เจ้าของคดี ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่า รถจักรยานยนต์อยู่ชิดเลนในฝั่งขวา เพื่อเตรียมจะกลับรถที่จัดยูเทิร์น ส่วนรถกระบะซึ่งคาดว่าน่าจะขับมาด้วยความเร็ว เพราะไม่เห็นรอยเบรกเลย ได้พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์เต็มแรง แล้วขับหลบหนีไปเลย ในเบื้องต้นพบชิ้นส่วนของรถยนต์คันที่ชนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว พร้อมทั้งยังได้แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามหารถคันที่ชนมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย