กรุงเทพฯ 24 เม.ย.-คุม 2 ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายชิงทรัพย์ชายเร่ร่อนวัย 71 ปี ย่านนางเลิ้ง ก้มกราบขอขมา อ้างทำครั้งแรก อยากได้เงินไปซ่อมรถซาเล้ง ด้านลุงเคราะห์ร้ายเผยเป็นกรรมเก่า อโหสิกรรมให้
ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ควบคุมตัวนายสุรชัย หรือหนึ่ง เชื้อเชียง อายุ 40 ปี และนายสมพงษ์ หรือบี พิมพ์สะอาด อายุ 41 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์นายปรีชา แซ่กี่ ชายเร่ร่อนย่านนางเลิ้ง อายุ 71 ปี เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจจับกุมได้บริเวณโรงกรองน้ำ ใกล้แยกตึกชัย
โดยเริ่มต้นตั้งแต่ที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนเดินผ่านมาเห็นลุงปรีชานั่งอยู่บริเวณด้านหน้าร้านหนังสือ บริเวณถนนนครสวรรค์ ย่านนางเลิ้ง ก่อนเข้าทำร้ายร่างกาย และชิงกระเป๋าที่มีเงิน 5,000 บาท หลบหนีไป
หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาทั้งสองได้ก้มลงกราบขอโทษลุงปรีชา บอกไม่ได้ตั้งใจ เพิ่งทำครั้งแรก แค่อยากได้เงินไปซ่อมรถซาเล้ง เพราะทำอาชีพเก็บของเก่า พนักงานสอบสวนได้นำผู้ต้องหาไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
ทั้งนี้เมื่อสอบถามลุงปรีชา ว่าอโหสิกรรมให้กับคนร้ายไหม ลุงบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วช่างมัน ถือเป็นกรรมเก่าของตัวเอง หรือเพราะชาติก่อนเคยทำร้ายเขาไว้ ยังรู้สึกลัวจะเกิดเหตุซ้ำอีก แต่ชีวิตไม่มีทางเลือกมากต้องอยู่ให้ได้ อยากมีห้องเช่าเล็กๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่อยากไปอยู่ที่หน่วยงานรัฐ เพราะอยากอยู่แบบอิสระ
ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ได้เข้ามาพูดคุยกับนายปรีชา แซ่กี่ อายุ 71 ปี เพื่อรับไปดูแลคุ้มครองตามสิทธิพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 เบื้องต้นจะนำนายปรีชาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกลาง เพื่อดูอาการบาดเจ็บ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะดูเรื่องสิทธิและประสานดำเนินการเอกสารต่างๆ รวมถึงจะประสานติดตามหาลูกสาว ตามสิทธิคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง โดยนายปรีชาแจ้งว่ามีลูกสาวอยู่ที่โคราช ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ซึ่งทาง พม.จะประสานตรวจสอบกับทางพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้เมื่อรับเข้ามาดูแลที่บ้านมิตรไมตรีแล้ว จะให้กรมกิจการผู้สูงอายุเข้ามาดูแลรับช่วงต่อ
ที่ผ่านมาลุงปรีชาอาศัยอยู่บริเวณนี้มากว่า 10 ปี ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ที่อยู่ใกล้เคียงพยายามติดต่อหน่วยงานให้เข้ามาดูแล รับตัวลุงไปสถานสงเคราะห์ แต่ลุงก็หนีออกมา ไม่ยอมอยู่ บอกอยากใช้ชีวิตอยู่แบบนี้. -สำนักข่าวไทย