กทม.23 เม.ย.-สตม. จับผู้ต้องหาอ้างเป็นตำรวจหลอกขายหน้ากากอนามัยเสียหาย 1.46 ล้าน พร้อมล่อซื้อขายน้ากากอนามัยเกินราคา
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเข้าร้องทุกข์ที่ สน. ปทุมวัน ว่าถูกหลอกซ้อหน้ากากอนามัยโดยผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า ได้สั่งซื้อสินค้าผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ เนื่องจากเห็นภาพโปรไฟล์เป็นรูปตำรวจและใช้ชื่อว่า“ผู้กองเมษฐ์” ซึ่งน่าเชื่อถือจึงสั่งซื้อหน้ากากอนามัยพร้อมโอนเงิน หลังจากนั้นพยายามติดต่อเพื่อรับสินค้าแต่ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอดจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ จากการตรวจสอบเลขบัญชีธนาคาร และไล่ตรวจกล้องวงจรปิด กระทั่งทราบว่ามีผู้กระทำผิด 2 คน คือนายธรณิศร หรือ เชน และนางศิระกาญจน์ หรือ เบิร์ด จึงขอศาลอนุมัติหมายจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่านำรูปถ่ายของพันตำรวจตรีกฤตท เจริญผล สารวัตรอำนวยการ สภ.วังทอง จังหวัดพิษณุโลก มาใช้สร้างเฟซบุ๊คขายหน้ากากอนามัย แล้วหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินแล้วกดออกมาใช้ บางส่วนนำไปเล่นการพนัน เที่ยวเตร่ ทำแบบนี้มา 8 ครั้ง ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น
นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมนายณรงค์เดช ผู้ต้องหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายจึงให้สายลับล่อซื้อหน้ากากอนามัย 100 กล่อง ราคากล่องละ 550 บาท เป็นเงิน 55,000 บาท แล้วนัดรับสินค้าพร้อมจ่ายเงิน ที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 เมื่อผู้ต้องหามาถึงจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พบหน้ากากอนามัยของกลางอีก 19 กล่อง รวมเป็น 119 กล่อง (5,950 ชิ้น) จึงแจ้งให้กรมการค้าภายในตรวจสอบหน้ากากอนามัยของกลาง และแจ้งข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินราคา และส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุมนายมนต์ชัย พร้อมพวกรวม 3 คน ขณะจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาบริเวณสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช ราคาชิ้นละ 20 บาท พร้อมยึดของกลางกว่า 400 ชิ้น จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ารับซื้อมาจากชาวกัมพูชาที่ลักลอบนำเข้ามากักตุนไว้บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว แล้วนำเข้ามาจำหน่ายที่ตลาดสำเพ็ง ย่านเยาวราช หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลลงพื้นที่ อำเภอคลองลึก จังหวัดสระแก้ว สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย คือนายลี่ และนายกุย ชาวกัมพูชา พร้อมของกลางอีก 2,500 ชิ้น ผู้ต้องหาเล่าว่าให้เพื่อนชาวกัมพูชาลักลอบนำเข้ามาทางแนวป่าตะเข็บชายแดน จากนั้นขยายผลจับกุมนางสาวนานู ซึ่งใช้เฟซบุ๊คชื่อ “คุณวรรณ”ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกัน หลังพบมีการโฆษณาขายหน้ากากอนามัยราคากล่องละ 720 บาท โดยจับกุมได้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พร้อมของกลาง 300 ชิ้น
คดีต่อมา ตำรวจสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จับกุม นางสุวันนา อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่หลอกขายหน้ากากอนามัยผ่านเฟสบุ๊ก โดยใช้ชื่อเพจ “อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับ” โพสต์จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคากล่องละ 480 บาท ซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาด จะมีประชาชนจำนวนมากสนใจหลงเชื่อสั่งซื้อ แต่กลับไม่ได้ของตามที่ตกลง มีผู้เสียหายกว่า 100 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงเปิดเพจขายเสื้อผ้าและสิ่งของต่างๆ ทางเฟสบุ๊ค มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ราย ถือเป็นนักต้มตุ๋นมืออาชีพ ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานต่อศาลอนุมัติออกหมายจับ และจับกุมได้ที่บ้านพักในอำเภอเมืองสงขลา ดำเนินคดีในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน สน. เพชรเกษม เจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย