ภูมิภาค 16 เม.ย. – พลเมืองดีพาลุงขายเฉาก๊วย วัย 71 ปี เข้าแจ้งความ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังถูกหนุ่มวัย 30 ปี โกงเงินเยียวยา 5,000 บาท
นายบุญใหล มอมขุนทด อายุ 71 ปี พักอยู่บ้านเช่า ริมถนนมิตรภาพ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อาชีพขายเฉาก๊วย ที่หน้าโรงเรียนขนงพระใต้ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา มีเด็กหนุ่มอายุประมาณ 30 ปี ไม่รู้จักกันมาก่อน มาซื้อเฉาก๊วย และได้สอบถามลุงว่า ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท จากรัฐบาลหรือยัง ลุงบอกว่ายัง ไม่รู้เรื่องเลย อ่านหนังสือไม่ออก ไม่มีโทรทัศน์ดู เด็กหนุ่มเลยอาสาลงทะเบียนให้ บอกว่าอีกไม่กี่วันเงินจะเข้าบัญชี ต่อมาเมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) เด็กหนุ่มได้โทรมาหาลุง บอกเงินเข้าแล้ว พร้อมทั้งพาไปที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น กม.4 บ้านนา ถ.ธนะรัชต์ ทางเข้าเขาใหญ่ แล้วกดเงิน 3 ครั้ง สุดท้ายส่งให้ลุง 1,000 บาท บอกเงินเข้าแค่นี้ ลุงเห็นเด็กหนุ่มมีน้ำใจ ยังมอบเฉาก๊วยให้ไปกว่า 10 ถ้วย จากนั้นก็แยกกับลุง แม่ค้าขายของหน้าเซเว่นฯ ถามลุงว่าได้เงินเท่าไร ลุงบอกว่าได้ 1,000 บาท จึงบอกลุงว่าถูกโกงแล้ว
หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีพาลุงนำสมุดบัญชีมาปรับที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปากช่อง ลุงจึงรู้ว่าถูกโกงเงินไป และเมื่อคืนนี้ มีพลเมืองดีพามาแจ้งความที่ สภ.ปากช่อง พร้อมนัดเด็กหนุ่มมาที่ สภ.ปากช่อง เวลา 13.00 น. วันนี้ (16 เม.ย.) ซึ่งเด็กหนุ่มทราบว่าลุงมาแจ้งความ จึงโทรหาลุง ขอผ่อนให้อาทิตย์ละ 1,000 บาท แต่ลุงไม่ยอม ถ้าไม่มีให้จะให้ตำรวจจับเข้าคุก
ขณะที่ครอบครัวนายยม และนางลำดวน รัตนพันธุ์ อายุ 53 ปี อยู่ที่ อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา รวม 9 ชีวิต ทั้งลูกชาย ลูกสาว ลูกเขย ลูกสะใภ้ 6 คน และหลานๆ อีก 3 คน เดิมทีทั้ง 6 คน ทำงานกรรมกรก่อสร้างใน จ.ปราจีนบุรี มานาน 5 ปี ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาด ต้องถูกเลิกจ้างงาน เพราะนายจ้างเองก็ได้รับผลกระทบไม่มีงานให้ทำเช่นกัน แถมนายจ้างไม่มีเงินจ่ายค่าแรงที่เหลือกว่า 20,000 บาท โดยจ่ายค่าแรงให้แค่ 1,000 บาท จึงพาครอบครัวเดินทางกลับมาบ้านเกิด เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีเงินติดตัวมาแค่ 1,000 บาท ไม่พอค่าจ้างเหมารถมาส่ง เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้สั่งให้กักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปไหน เป็นเวลา 14 วัน เพราะต้องเข้าระบบเฝ้าระวังการแพร่เชื้อ ตอนนี้ลำบากมาก ไม่ได้ออกไปทำงานหาเงิน ไม่มีรายได้ และไม่มีเงินใช้จ่าย ทั้งนี้ นางลำดวน บอกว่า ได้ลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา 5,000 บาท ของทางรัฐบาล แต่ถูกตัดสิทธิไม่ได้รับ จึงอยากวอนหน่วยงานภาครัฐให้การช่วยเหลือ ก่อนที่จะอดตายกันทั้งครอบครัว
ส่วนที่ จ.สงขลา บรรยากาศการจ่ายเงินเยียวยาโควิด-19 รอบ 3 ระหว่างวันที่ 15-17 เมษายน 2563 ยังคงมีหลากหลายอารมณ์ของผู้ที่ลงทะเบียนรับเงิน ทั้งสมหวังได้เงิน 5,000 บาท และไปกดเงินที่ธนาคารนำมาใช้จ่าย บางคนอารมณ์ค้าง เพราะแม้ได้รับสิทธิ แต่ยังมีปัญหาเรื่องบัญชี เงินยังโอนเข้ามาไม่ได้ บางคนก็เซอร์ไพรส์ เพราะยังไม่ได้รับข้อความ แต่เมื่อปรับสมุดก็พบว่ามีเงินเข้ามาแล้ว
นางประพิมพ์ วงค์ศรีทอง อายุ 67 ปี แม่ค้าขายขนมพื้นบ้าน ย่าน ถ.ราษฎร์อุทิศ อ.หาดใหญ่ ซึ่งคุณยายตั้งตารอเงิน 5,000 บาท มา 3 รอบแล้ว แต่เงินยังไม่เข้า ได้รับข้อความแต่เพียงว่ารอตรวจสอบ ไม่รู้ว่าจะได้รับสิทธิ หรือได้รับเงินหรือไม่ ได้แต่รออย่างเดียว. – สำนักข่าวไทย