กทม.15 เม.ย.-ตำรวจท่องเที่ยวเร่งหาหลักฐานจับตัวการปลอมใบรับรองแพทย์ขายช่วงโควิด-19 เร่งขายผลจับเพื่อนร่วมแก๊ง
ใบรับรองแพทย์ปลอมระบุผลการตรวจยืนยันไม่พบเชื้อโควิด-19 และใบรับรองแพทย์ปลอมระบุสั่งกักตัว 14 วัน เหล่านี้ เป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจท่องเที่ยวใช้ดำเนินคดี กับนายกอล์ฟ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังนำกำลังเข้าจับกุมภายในบ้านพักย่านนาคนิวาส เมื่อวานนี้(14 เม.ย.)
ล่าสุดตำรวจอยู่ระหว่างเร่งขยายผล หลังสืบทราบว่า ขบวนการปลอมใบรับรองแพทย์นี้มีผู้อยู่เบื้องหลัง ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนในเรื่องของอุปกรณ์และส่งต่อลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก
ด้านพันตำรวจตรีขวัญพล เพ็งเดือน สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่า มีผู้ร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 1 คน โดยอยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมหลักฐาน
สำหรับพฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ เริ่มจากหาลูกค้าผ่านเฟซบุ๊คและแอปพลิเคชั่นไลน์ ก่อนพูดคุยรายละเอียดและตกลงราคาทำใบรับรองแพทย์ปลอม คือ 800 – 1,000 บาท ขณะที่นายกอล์ฟ รับสารภาพว่าทำมานานกว่า 1 ปี มีลูกค้ามากกว่า 1,000 ราย โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ฉวยโอกาสทำใบรับรองแพทย์ปลอมให้กับลูกค้า นำไปใช้ติดต่อขอรับเงินประกันต่างๆและอ้างกับบริษัท เพื่อใช้ในการหยุดงาน ซึ่งข้อความต่างๆที่ถูกระบุลงในเอกสารใบรับรองแพทย์ปลอม นั้นเป็นไปตามความประสงค์ของลูกค้าที่นำตัวอย่างมาจากโซเชียลมีเดีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมนายกอล์ฟ ภายในบ้านพัก ตำรวจพบใบรับรองแพทย์ปลอม 96 ใบ ตรายางของโรงพยาบาลกว่า 10 โรงพยาบาล ในจำนวนนี้เป็นใบกักตัว 14 วัน หลาย 10 ใบ และมีใบตรวจโรคโควิด-19 จำนวน 4 ใบ ตำรวจเตรียมเชิญบุคคลเหล่านี้มาสอบสวนถึงสาเหตุของการนำใบรับรองแพทย์ปลอมไปใช้ โดยเฉพาะการแอบอ้างเพื่อรับเงินประกัน และการนำไปใช้เดินทางออกนอกประเทศ ที่พบกรณีของหญิงไทย ว่าจ้างทำใบรับรองแพทย์ปลอมระบุเป็นแค่ไข้หวัดใหญ่ ใช้เดินทางเมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยเห็นว่าเป็นการปฏิเสธการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจโรค ซึ่งหากหญิงคนดังกล่าวติดเชื้อและเดินทางจะส่งผลเป็นวงกว้าง ถึงแม้นายกอล์ฟ ผู้ต้องหา จะอ้างว่าช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีรายได้จากการปลอมใบรับรองแพทย์ลดลง แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะผู้ต้องหาไม่มีอาชีพประจำ แต่เช่าบ้านหรูพักอาศัยเดือนละ 30,000 บาท จึงเชื่อว่าทำใบรับรองแพทย์ปลอมเป็นอาชีพหลัก โดยประเมินจากคำรับสารภาพของผู้ต้องหาที่ระบุว่ามีลูกค้ามากกว่า 1,000 ราย เชื่อว่าที่ผ่านมาสร้างรายได้หลักล้านบาท.-สำนักข่าวไทย