รัฐต้องสื่อสารเข้าใจง่าย ชัดเจนสร้างแนวร่วมฝ่าวิกฤติโควิด

พรรคประชาธิปัตย์ 31 มี.ค.-รองหน.ปชป.ชี้ 2 สาหตุประชาชนเมินปฏิบัติตามคำสั่งรัฐ ขาดความชัดเจน สับสน ไม่สอดคล้องการดำเนินชีวิต เสนอ 3 ทางแก้ ปรับรูปแบบการสื่อสาร เข้าใจง่าย ชัดเจน แก้ไขข้อผิดพลาดทันที ประสานความร่วมมือ นำทีมไทยแลนด์พาประเทศพ้นวิกฤติโควิด-19


นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก กนก วงษ์ตระหง่าน เรื่อง ตรวจการบ้านรัฐบาลในสถานการณ์ไวรัส (COVID-19) มีเนื้อหาโดยสรุปชี้ให้เห็นสาเหตุที่ประชาชนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ประกาศของทางราชการไว้ ดังนี้ 1. การประกาศ และคำสั่งของทางรัฐบาลขาดความสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตทั่วไปของประชาชนในหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่ชนบท (ต่างจังหวัด) พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น โดยเฉพาะกับบุคคลที่มีรายได้น้อย ทำงานหาเช้ากินค่ำ หรือเป็นบุคคลฐานล่าง (ยากจน) ที่อาศัยอยู่ทั้งในตัวเมืองและชนบท รวมถึงความไม่ชัดเจนในมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของทางรัฐบาล เช่น ระบบประกันสังคมจะช่วยเหลือแรงงานด้วยเงื่อนไขแบบใด หรือแรงงานนอกระบบรูปแบบไหนบ้างที่จะได้รับการช่วยเหลือ โดยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ (ตามที่รัฐบาลระบุ) ยังไม่สามารถสื่อสารสร้างความเข้าใจร่วมกันกับประชาชนได้ ท้ายที่สุดอาจกลายเป็นการยึดกฎระเบียบที่ตัวเองเข้าใจ (ตีความตามตัวอักษร) แล้วปล่อยให้ปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนกลายเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ธุระของตนเอง 

“2. การสื่อสารและการแถลงข่าวจากทางรัฐบาล และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ตอบโจทย์เรื่องการสร้างความเข้าใจและความใส่ใจที่จะเกิดขึ้นต่อการรับรู้ของประชาชน ที่ทางภาครัฐเองยังมีความสับสนระหว่างการสื่อสารเพื่อการรับทราบกับการสื่อสารเพื่อสร้างการตระหนักรู้และตื่นตัว ซึ่งในรูปแบบหลังนั้นสามารถสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อมาตรการต่าง ๆ  ได้อย่างสมบูรณ์กว่าในรูปแบบแรก และลดภาระของรัฐต่อการฝ่าฝืนคำสั่งหรือมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาบังคับใช้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่งด้วย” นายกนก ระบุ


นายกนก เสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ ดังนี้ 1. การออกมาตรการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 รัฐบาลและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องควรคิดถึงบริบทความเป็นจริงของประชาชนในแต่ละพื้นที่ให้มาก และต้องคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนที่หลากหลาย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาจากทางภาครัฐสามารถที่จะส่งตรงไปยังบุคคลที่มีความเดือดร้อนได้ทันที มีความแม่นยำต่อปัญหาที่แท้จริงของประชาชนทั้งหมด การจะทำได้เช่นนี้ รัฐบาลต้องกระจายอำนาจการสั่งการไปยังจังหวัดหรือท้องถิ่น ให้ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินระดับจังหวัด หรือท้องถิ่น เพราะหน่วยงานราชการระดับจังหวัด หรือท้องถิ่นจะเข้าใจบริบทของพื้นที่และสภาพปัญหาที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี 

“ส่วนกลางหรือศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินระดับประเทศ ควรให้ความสำคัญต่อเรื่องยุทธศาสตร์ การวางเป้าหมาย การเตรียมทรัพยากร และการประสานการบริหารในภาพรวม เพื่อเป็นพื้นที่กลางในการวางมาตรการและกำหนดเป้าหมายในแต่ละภารกิจ การประเมินการทำงาน และปรับปรุงข้อผิดพลาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด การเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลากร องค์ความรู้ อุปกรณ์ งบประมาณ และการสนับสนุนต่าง ๆ เมื่อได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากทางจังหวัด หรือท้องถิ่น ในกรณีที่เกินกำลังในการบริหารจัดการ” นายกนก กล่าว

นายกนก ระบุว่า 2. การสื่อสารจากทางรัฐบาล และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ควรเน้นข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน สั้นกระชับ และเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง (ซ้ำๆ กันบางประเด็นที่สำคัญ) เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบกันอย่างทั่วถึง ครบถ้วนในเนื้อหา และเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน สิ่งที่ต้องชื่นชมคือการสรุปภาพรวมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในแต่ละวัน ซึ่งทำได้สมบูรณ์แล้ว แต่การให้ความเข้าใจและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรการบรรเทาปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนจากผลกระทบของคำสั่งจากทางภาครัฐ ตรงนี้ต้องบริหารจัดการให้เป็นระบบเสียใหม่ ด้วยการรวบรวมปัญหาและความเดือดร้อนให้เป็นหมวดหมู่ จำแนกแยกเฉพาะไปเลยเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 


“3. การแก้ไขปัญหาวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นเรื่องธรรมดาที่มาตรการหรือคำสั่งที่ออกมาจะเกิดข้อผิดพลาดได้ (เพราะถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเลย จะกลายเป็นเรื่องผิดปกติ) ดังนั้น เมื่อเกิดข้อผิดพลาดแล้ว ขอให้รีบแก้ไข และจัดการกับปัญหาหรือข้อผิดพลาดนั้นให้ลุล่วงไป ความสามารถในลักษณะนี้ ในทางวิชาการนิยามกันว่าเป็น “ความสามารถในการพลิกฟื้นจากข้อผิดพลาด” (Resilience) ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยต้องการขีดความสามารถเพื่อการพลิกฟื้นจากข้อผิดพลาดในยามวิกฤตนี้เป็นอย่างมาก เพราะความต่อเนื่องของความสามารถชนิดนี้ ที่พวกเรา “ทีมไทยแลนด์” จะร่วมด้วยช่วยกันสร้างขึ้นมา จะเป็นเครื่องมือสำคัญชิ้นหนึ่ง ในการข้ามผ่านวิกฤตไวรัสตอนนี้ และส่งผลไปถึงช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูเยียวยาประเทศไทย ภายหลังจากที่เราสามารถเอาชนะเจ้าไวรัสตัวนี้ได้ในที่สุด” นายกนก ระบุ.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

สีสันคริสต์มาสอีฟ ย่านราชประสงค์

บรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสอีฟ ย่านราชประสงค์ ท่ามกลางอากาศสบายๆ ยามเย็น อบอวลด้วยรอยยิ้มและความสุข ททท. มั่นใจตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2567 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 จะมีนักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทั่วไทย มากกว่า 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินกว่า 62,000 ล้านบาท

นายกฯ​ ขอบคุณสื่อร่วมทำงาน บอกเป็นคนตรงๆ ไม่ค่อยคิดร้าย

นายกฯ​ ขอบคุณสื่อร่วมทำงาน บอกอายุน้อยที่สุดต้องสร้างความสดใสทุกวงการ​ ขอให้เข้าใจคาแรคเตอร์ส่วนตัวเป็นคนตรง-โผงผาง​ ไม่ค่อยคิดร้ายกับใคร

เลขาฯ กฤษฎีกา ยันยังไม่มีข้อสรุปปม “กิตติรัตน์”

“เลขาฯ กฤษฎีกา” ยันยังไม่ปัดตก “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เผยเตรียมประชุมคณะกรรมการร่วม สอบคุณสมบัติพรุ่งนี้