ตำรวจเข้ม เอาผิดทั้งจำทั้งปรับกักตุนสินค้า

กทม.10 มี.ค.-ผบช.น.กำชับทุก สน.ในพื้นที่คุมเข้มการกักตุนสินค้าจำเป็นช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด เอาผิดทั้งจำทั้งปรับ


จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 หรือโควิด 19 (COVID – 19)ในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน  แต่กลับมีกลุ่มบุคคล รวมถึงผู้ประกอบการบางรายอาศัยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เช่น การกักตุนสินค้าป้องกันโรค (หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ) การจำหน่ายสินค้าฯในราคาสูงเกินควร จำหน่ายสินค้าฯ ไม่มีคุณภาพ หรือ นำสินค้าฯ ใช้แล้วมาหลอกขายว่าเป็นสินค้าใหม่ หรือหลอกลวงขายสินค้าซึ่งไม่มีอยู่จริงให้แก่ประชาชน  พลตำรวจโท ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จึงกำชับให้สถานีตำรวจ และหน่วยงานในสังกัด เฝ้าติดตามตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดให้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกราย โดยการกระทำผิดข้างต้นมีอัตราโทษดังต่อไปนี้ 1. การกักตุนสินค้าควบคุมโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา ๓๐ ประกอบมาตรา 41 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  2. การจำหน่ายสินค้าและบริการที่ควบคุมเกินราคา เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา ๓๙  ประกอบมาตรา ๒๖ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   3. การจำหน่ายสินค้าด้อยคุณภาพเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับไม่เกิน ๖0,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ   4. การหลอกลวงขายสินค้าซึ่งไม่มีอยู่จริงให้แก่ประชาชน อาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตามมาตรา 341 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ หากฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี


สำหรับประชาชนที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการสั่งซื้อสินค้า โดยตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย ดังนี้ 1. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายจากกลุ่มที่ทำการซื้อขาย , 2. ตรวจสอบชื่อบัญชีและเลขบัญชีของผู้ขายจากสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ว่ามีการขึ้นบัญชีโกงหรือไม่ ,3. ตรวจสอบคำวิจารณ์ (review) การซื้อขายสินค้าของผู้ขาย, 4. อย่าเห็นแก่สินค้าราคาถูก ซึ่งอาจด้อยคุณภาพ, 5. หากเป็นไปได้ ให้นัดรับสินค้าจากผู้ขายโดยตรง, 6. อย่าสั่งซื้อสินค้าจากผู้ขายครั้งละปริมาณมากๆ , 7. สังเกตวิธีการมัดจำราคาสินค้า

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการซื้อสินค้าออนไลน์ในกรุงเทพมหานครแล้วไม่ได้รับสินค้า ขอให้ผู้ซื้อเตรียมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อซื้อขาย เช่น ภาพเว็บไซต์ เพจ หรือหน้าที่ประกาศขายสินค้า ข้อความสนทนาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย รายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ขาย เช่นชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ เลขบัญชีธนาคารของผู้ขาย และหลักฐานการโอนเงินชำระค่าสินค้า และนำหลักฐานดังกล่าวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจพื้นที่ที่มีการตกลงซื้อขายสินค้า หรือโอนเงินชำระค่าสินค้า 

สำหรับความผิดที่เป็นการฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดนอกจากนี้ หากประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าว หรือพบบุคคลที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศดลุ่มเสี่ยง ที่ไม่กักตัว 14 วัน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข สามารถแจ้งมายัง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผ่านสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือ ศูนย์วิทยุ 191 เพื่อตรวจสอบและดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม