อภ.9 มี.ค.- วันสุดท้าย อภ.ขายหน้ากากอนามัย ประชาชนแห่ซื้อ คิวเต็ม 700 คิว ก่อน 08.00 น. หลังจากนี้จะจำหน่ายเจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ทางระบบออนไลน์ ส่วนหน้ากากอนามัยต่อไปเป็นหน้าที่กรมการค้าภายในกระจายให้ร้านค้า
บรรยากาศที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในการจำหน่ายหน้ากากอนามัยวันสุดท้ายให้กับประชาชนทั่วไป ก่อนที่จะโอนการจำหน่ายให้เป็นหน้าที่ของกรมการค้าภายใน และอภ.จะจำหน่ายเจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ในระบบออนไลน์แทน มีประชาชนทั่วไปมารอต่อคิวกันตั้งแต่ 03.00 น. และคิวได้เต็มครบ 700 คิวก่อน เวลา 08.00 น. ซึ่งวันนี้ประชาชนทั่วไป สามารถซื้อหน้ากากอนามัย 1 ชุด มี 10 ชิ้น ในราคา 10 บาท แอลกออล์ขนาด 450 มล. ราคา 41 บาท และเจลล้างมือ 2 หลอด /หลอดละ 24 บาท รวม 1 ชุด ราคา 99 บาท ซึ่งจากนี้ไปทาง อภ.จะปรับการจำหน่ายแอลกอฮอล์และเจลล้างมือ มาจำหน่ายในระบบออนไลน์ของ อภ.แทน
ด้านนางนาฏชุกร แก้วปรารถนา ประชาชนที่มารอคิวซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือเพื่อรับมือกับโควิด-19 นั้นเดินทางมาตั้งแต่ 04.00 น. เพราะทราบข่าววันนี้ อภ.จำหน่ายเป็นวันสุดท้าย โดยตั้งใจซื้อไปให้ลูกสาวซึ่งทำงานพยาบาลที่ รพ.รามาธิบดี ใช้ป้องกันโรค เพราะการใช้หน้ากากอนามัยมีจำกัดใน รพ.1 คน 1 ชิ้น กลัวลูกสาวป่วย ส่วนตัวใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าเพราะไม่ป่วย และเข้าใจการบริหารจัดเรื่องการจำหน่ายหน้ากากที่ต้องให้บุคลากรทางการแพทย์มีพอก่อน แต่ไม่เข้าใจทำไม กรมการค้าภายในไม่จัดการการจำหน่ายหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือราคาแพงในเฟซบุ๊ก 50 ชิ้น 800 บาท และทำไมถึงมีหลุดรอดออกจากระบบที่ควบคุม เพราะมีหลายวิชาชีพที่ออกมาขายผ่านเฟซบุ๊ก
เช่นเดียวกับนงสาวจารุณร จงเชิดชูตระกูล กล่าวว่า มารอคิวซื้อหน้ากากอนามัยตั้งแต่ 05.00 น. เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ อีกทั้งราคาถูก แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับการใช้ในการป้องกันโควิด-19 เพราะที่บ้านมีสมาชิกถึง 5 คน คงต้องหาซื้อเพิ่ม อีกทั้งทำงานที่มีคนมาติดต่อและเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก เบื้องต้นครอบครัวเน้นการป้องกัน โดยไม่เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ รวมถึงงดการเดินห้างสรรพสินค้า
ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผอ.อภ. กล่าวว่า วันนี้เป็นการจำหน่ายหน้ากากอนามัยวันสุดท้าย ทำให้มีประชาชนมารอคิวเป็นจำนวนมาก ปกติมีประชาชนเข้าคิวรอซื้อหน้ากากอนามัย 400 คน/วัน แต่วันนี้เปิดรับถึง 700 คิว และสำรองอีก 200 คิว เพื่อจำหน่ายแอลกอฮอล์เจลและแอลกอฮอล์ขนาดขวด 450 มิลลิลิตร ทั้งนี้ การจำหน่ายต่อไปจะเป็นอำนาจของกรมการค้าภายในกระจายให้ร้านค้า อย่างไรก็ตาม ขอให้รอดูผลต่อไปอีกสักระยะ เชื่อว่าของจะเพียงพอกับประชาชน แต่ขณะนี้สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน คือ การกระจายหน้ากากอนามัยให้บุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นด่านหน้าในการป้องกันโรค
ภญ.ศิริกุล กล่าวว่า อภ.ได้รับการกระจายหน้ากากอนามัยจากกรมการค้าภายใน 410,700 ชื้น เตรียมกระจายให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งการแจกจ่ายนี้เริ่มดำเนินการแล้ว อย่างไรก็ตาม การงดการจำหน่ายหน้ากากอนามัยในร้านค้า 8 สาขาของ อภ. มุ่งหวังลดความแออัดเพื่อเป็นการป้องกันโรคโควิด-19 และเพื่อเป็นการมุ่งหวังให้บุคลากรการแพทย์ได้รับหน้ากากอนามัยเพียงพอสำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ป่วย ขอให้ใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าในการป้องกัน หากเจ็บป่วยจึงจะใช้หน้ากากอนามัย.-สำนักข่าวไทย