กทม 27 ก.พ.- รู้หรือไม่ “ไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19” มีที่มาจากไหน? ความเสี่ยงในการติดเป็นอย่างไร รวมถึงวิธีสังเกตอาการเบื้องต้น แอดมินจะพาไปรู้ข้อมูลคร่าวๆ เหล่านี้กัน เพื่อที่เราจะได้ป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
เชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 คืออะไร?
กลุ่มไวรัสโคโรนาถูกค้นพบครั้งเเรกเมื่อปี ค.ศ.1960 ส่งผลให้เกิดไข้หวัดทั่วไป แต่ไม่ได้รุนเเรงมาก และล่าสุด พบที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างจากที่เคยเจอมาก่อน และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้
โคโรนา คือ เชื้อไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎพบครั้งเเรกกลางทศวรรษที่ 1960 โดยมีเชื้อไวรัสอยู่ 4 สายพันธุ์ใหญ่ๆ แต่ตัวที่ระบาดมากที่สุดคือ SARS-CoV พบครั้งเเรกที่ประเทศจีน ปี ค.ศ.2002-2003 ซึ่งได้ระบาดไปทั่วโลกและเกิดอัตราการเสียชีวิตสูง ต่อมาพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ MERS-CoV ซึ่งเกิดขึ้นครั้งเเรกในประเทศซาอุดิอาระเบีย แถบตะวันออกกลาง
โคโรนา สายพันธุ์นี้เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ซึ่งสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน เป็นสายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่า “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และต่อมาถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (Covid-19) มันคือชื่อเดียวกันนั่นเอง
คณะนักวิจัยในมณฑลกวางตุ้งของจีนได้ศึกษาตัวอย่างที่เก็บมาจากจมูก และลำคอ ของผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 พบว่า #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นี้มีพฤติกรรมคล้ายกับไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ มากกว่า #ไวรัสโคโรนา ที่ทำให้เกิดโรคซาร์ส บ่งชี้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่กระจายได้ง่ายกว่าที่เคยคิดกัน
ผลการศึกษาระบุว่า โรคซาร์สเป็นโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างที่ทำให้ปอดอักเสบ ขณะที่โรคโควิด-19 จะให้เกิดการติดเชื้อทั้งทางเดินหายใจส่วนบน และส่วนล่าง ดังนั้นจึงไม่เพียงแต่ทำให้ปอดอักเสบรุนแรงเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายได้ง่ายเหมือนไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดธรรมดาด้วย
คณะนักวิจัยยืนยันด้วยว่า โรคนี้สามารถติดต่อกันได้ตั้งแต่ระยะแรกของการติดเชื้อ คือตั้งแต่ผู้ติดเชื้อยังไม่แสดงอาการ พร้อมแนะนำว่าการควบคุมโรคนี้จะต้องใช้วิธีการที่แตกต่างจากวิธีที่ใช้ในการควบคุมโรคซาร์ส
ที่มาของโควิด-19
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 คาดว่าจุดเริ่มต้นมาจากตลาดอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่น จากผู้ติดเชื้อกลุ่มเเรกที่เป็นคนงานและลูกค้าของตลาดสดแห่งนี้ นอกจากตลาดแห่งนี้จะขายอาหารทะเลแล้วยังขายเนื้อสัตว์ และสัตว์นานาชนิด รวมทั้งสัตว์ปีก งู และค้างคาว
ความเสี่ยงต่อการติดต่อและอาการบ่งบอก
ลักษณะการแพร่เชื้อจะเหมือนกับไวรัสอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ผ่านการไอ จาม สารคัดหลั่งต่างๆ รวมถึงการที่ไวรัสปนเปื้อนกับและสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อผู้อื่นมาสัมผัสก็สามารถติดต่อกันได้
สังเกตอาการเบื้องต้น
ไวรัสชนิดนี้มีระยะฟักตัวประมาณ 2-14 วัน หลังจากได้รับเชื้อ อาการเริ่มเเรกที่ปรากฏส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการไอ จาม เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย หากผู้ได้รับเชื้อมีร่างกายไม่เเข็งเเรงหรือภูมิคุ้มกันต่ำ จะทำให้รุนเเรงถึงขั้นวิกฤติและอาจเสียชีวิตได้
วิธีป้องกันตนเอง
1. หลีกเลี่ยงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงการระบาดของโรค
2. ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน
3. หมั่นล้างมือด้วยสบู่ให้บ่อยขึ้น
4. พยายามกินอาหารที่ปรุงสุก งดรับประทานอาหารดิบ และใช้ช้อนกลาง
5. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น อาทิ ผ้าเช็ดหน้า ช้อน แก้วน้ำ
6. พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ที่มีอาการไอ จาม
คำแนะนำจากคุณหมอ
ก่อนเดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด
1. หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด หรือชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ
2. ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล
3. หากมีอาการป่วย ให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น หากอาการไม่ดีให้ไปพบแพทย์
หลังเดินทางกลับมายังประเทศไทย
1. ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามขั้นตอนการคัดกรอง ผู้เดินทาง และมาตรการป้องกันควบคุมโรคของ กระทรวงสาธารณสุข
2. สังเกตอาการป่วยของตนเอง ภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ โดยให้สวมหน้ากากอนามัยและแจ้งประวัติเดินทาง
3. ควรงดออกไปในที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่กับจำนวนมาก
4. งดการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
โรงพยาบาลใดบ้างที่รองรับการตรวจโคโรนาหรือโควิด-19
ณ เวลานี้มีโรงพยาบาลทั้งของรัฐเเละเอกชนทั้ง 8 แห่ง ที่รองรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ในราคาที่ไม่สูงมาก เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มั่นในตนเองว่าจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงรับการตรวจโดยมีรายชื่อ ดังนี้
• โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท
• โรงพยาบาลราชวิถี ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท
• โรงพยาบาลเปาโล ทุกสาขา ค่าบริการตั้งแต่ 5,000-13,000 บาท
• โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าบริการประมาณ 5,000 บาท
• โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่าบริการประมาณ 5,000 บาท
• โรงพยาบาลพญาไท2 ค่าบริการประมาณ 6,500 บาท
• โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ค่าบริการประมาณ 7,000 บาท
• โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ค่าบริการประมาณ 9,900 บาท
***โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจจะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการติดเชื้อของผู้มาตรวจ หากมีโอกาสติดเชื่อสูงราคาก็อาจจะขยับมากกว่าราคาข้างต้น ***
อ้างอิงข้อมูลจาก:
– อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
– คู่มือป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย www.nia.go.th/s/covid-19.pdf