ทำเนียบฯ 11 ก.พ.- นายกฯย้ำไม่อนุญาตเรือสำราญจากฮ่องกงเทียบท่าที่ไทย แต่พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมสั่งให้สธ.เตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ผุดแนวคิดทำหน้ากากด้วยผ้านำกลับมาใช้ซ้ำได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ทางการไทยไม่อนุญาตให้ เรือสำราญเวสเทอร์ดัม จากฮ่องกงเข้าเทียบท่าในประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสโคโรนาระบาด แต่พร้อมด้านมนุษยธรรม เช่น การเติมน้ำมัน การส่งเสบียง น้ำและอาหาร ซึ่งเป็นการดำเนินการแบบเดียวกับต่างประเทศ
“มีคนจำนวน 2 พันกว่าคนบนเรือ เพราะฉะนั้นเราต้องระวัดระวังการแพร่กระจายไประยะที่ 3 วันนี้เราอยู่ในระยะที่ 2 ยังคอนโทรลได้ ควบคุมได้ หรือดูแลผู้ที่มาจากต่างประเทศได้ แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทางกระทรวงสาธารณสุขประชุมและชี้แจงมาตรการเตรียมการไปสู่การแพร่ระบาด ซึ่งเป็นการเตรียมการขั้นต้นและขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะหากทำได้ดีครบถ้วน ก็ไม่มีปัญหา และได้มอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือกับผู้ประกอบการผลิตหน้ากากอนามัยให้เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น ซึ่งได้รับรายงานว่า มีการเพิ่มวงรอบการผลิตหน้ากากมากขึ้นแล้ว เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน และต้องกระจายไปในทุกพื้นที่ ซึ่งวันนี้ก็ส่งไปยังร้านค้าประชารัฐ อาจมีการจัดทำหน้ากากที่ทำด้วยผ้า ที่สามารถซักและนำมาใช้ซ้ำได้ และมีความทนทานมากกว่าหน้ากากทั่ว ๆ ไป
“ราคาหน้ากากอนามัยที่ราคาแต่ละแห่งไม่เท่ากัน เนื่องจากการผลิตของภาคเอกชนกับขององค์การเภสัชเป็นคนละแบบกัน ซึ่งของภาคเอกชนมีค่าการตลาดด้วย แต่ของที่องค์การเภสัชผลิตมีจำนวนจำกัด ทำให้ราคาแตกต่างกัน ซึ่งต้องดูว่า ในส่วนไหนทำประโยชน์ตรงไหนได้บ้าง ซึ่งได้มีการหารือในที่ประชุม ครม.ทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว เพื่อป้องกันการขาดแคลนในประเทศ และช่วยเหลือต่างประเทศที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัยด้วย รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย