“ดอน” ยันไทยประสานงานนานาชาติตลอด เรื่องไวรัสโคโรนา

กรุงเทพฯ 9 ก.พ.-รมว.ต่างประเทศ ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ยืนยันไทยประสานงานกับเครือข่ายนานาชาติตลอด และไทยได้รับการยกย่องว่ามาตรฐานด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีความพร้อมรับมือโรคระบาดดีเยี่ยมเป็นอันดับ 6 ของโลก 


นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาว่า เนื่องจากในขณะนี้เกิดความตื่นตระหนกในข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและไม่สมบูรณ์ในเรื่องโรคระบาดไวรัสอยู่มาก จึงจําเป็นยิ่งที่ทุกคนและทุกประเทศจะใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้เป็นมาตรฐาน ประการแรกกระทั่งทุกวันนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่มีการประกาศห้ามเดินทางเข้าประเทศและออกจากประเทศใดๆ ขณะที่ประเทศไทยมีการติดต่อประสานงานกับเครือข่ายนานาชาติมาโดยตลอด และไทยก็ได้รับการยกย่องว่ามาตรฐานด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทยมีความพร้อมในการรับมือโรคระบาดดีเยี่ยมเป็นอันดับ 6 ของโลก ประเทศไทยจึงมีความพร้อมในการดูแลพลเมืองไทยและประชาชนที่มาจากประเทศอื่นในไทย และสามารถแลกเปลี่ยน แนวปฏิบัติชั้นเลิศ ( best practices ) กับนานาประเทศ เพื่อพิชิตเชื้อโรคร้ายและรักษาผู้ติดเชื้อให้หายขาดได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่

นายดอน กล่าวว่า ประเทศไทยมีประสบการณ์ในด้านการควบคุม รักษา โรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพมาตลอด โรคร้ายเช่น SARS และ MERS ไทยก็สามารถป้องกัน และรักษาคนไทยและชาวต่างชาติให้ปลอดภัยหายขาด และหยุดยั้งการแพร่ของเชื้คโรคต่างๆนี้ได้อย่างดียิ่ง จนได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ และครั้งนี้ก็จะไม่ต่างจากในอดีต จึงอยากวิงวอนให้ ประชาชนไม่ต้องตระหนกกับข่าวลือนานัปการที่ถูกปล่อยออกมาจากผู้ไม่หวังดี หรือจากผู้ที่ไม่มีความรู้จริงซึ่งถือว่าเป็นอันตรายยิ่ง และ “เช็กก่อนแชร์” เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ในสภาวะปัจจุบันที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส ทุกประเทศต้องร่วมมือและช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาลไทย และประชาชนไทย ขอส่งความปรารถนาดีไปยังทุกประเทศในอาเซียน อาเซียน+3 และทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโคโรนาไวรัส  ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ติดเชื้อทุกคนแข็งแรงเป็นปกติโดยเร็ว โดยไทยยินดีร่วมมือและสนับสนุนประชาคมระหว่างประเทศอย่างเต็มที่เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว   

เมื่อถามถึงกรณีที่มีรัฐมนตรีไทยไปไล่นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยบอกว่าไม่ทำตามนโยบายด้านสาธารณสุขของไทย จะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของไทยในสายตานักท่องเที่ยวหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ไทยไม่เพียงแต่ไทยจะยืนหยัดอยู่ร่วมกับเพื่อนอาเซียน แต่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้ากับมิตรประเทศอื่นๆ ทั้งในและนอกภูมิภาค ในการสร้างมาตรการและมาตรฐานการรับมือกับโรคระบาดต่างๆทั้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคต ทั้งจากบทเรียน และความรู้ที่จะแลกเปลี่ยนกันได้ และขอขอบคุณนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหลายที่ยังคงเดินทางมาประเทศไทย  ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการต่างๆ ของไทยในการป้องกันโคโรนาไวรัส ทั้งนี้รัฐบาลไทยขอให้ทุกคนมีสติและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลสุขภาพ และไม่ใช้เรื่องโรคระบาดนี้เป็นข้อปฎิเสธ รังเกียจ เหยียดหยามผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหนมาจากที่ใด เราต้องให้เกียรติกันและกัน ร่วมมือระหว่างกันในฐานะสมาชิกของประชาคมโลกที่กำลังเผชิญกับปัญหาและสิ่งท้าทายเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

เลขาฯ กฤษฎีกา ยันยังไม่มีข้อสรุปปม “กิตติรัตน์”

“เลขาฯ กฤษฎีกา” ยันยังไม่ปัดตก “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ หรือไม่ เผยเตรียมประชุมคณะกรรมการร่วม สอบคุณสมบัติพรุ่งนี้

“กิตติรัตน์” เคารพการพิจารณา หลังไม่ผ่านคุณสมบัตินั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

“กิตติรัตน์” โพสต์ข้อความ หลังไม่ผ่านคุณสมบัตินั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ลั่นไม่มีอะไรค้างคาใจ-ไม่เคยขลาดกลัวหนีหายเอาตัวรอด ระบุได้อาสาทำงานให้ประเทศแล้ว ยันเคารพการพิจารณา

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท