กรุงเทพ 9 ก.พ.- โฆษกกองทัพบกแจงยังไม่พบลักษณะการดูแลรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยไม่เป็นไปตามระเบียบหรือข้อกำหนดของราชการ มั่นใจมาตรการรักษาความปลอดภัยในภาพรวม โดยเฉพาะสถานที่เก็บอาวุธหรือสิ่งหวงห้าม มีระบบการปิดล็อก
พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า จากกรณีที่จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา สังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ได้นำอาวุธไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนในที่สาธารณะในจังหวัดนครราชสีมาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากและมีกระแสพูดถึงการเก็บรักษายุทโธปกรณ์ไม่ดีนั้น จากการตรวจสอบพบว่าอาวุธของทางราชการที่ถูกเอาไปใช้ในการก่อเหตุนั้น เบื้องต้นยังไม่พบลักษณะการดูแลรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยไม่เป็นไปตามระเบียบหรือข้อกำหนดของราชการ มั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยในภาพรวม โดยเฉพาะสถานที่เก็บอาวุธหรือสิ่งหวงห้าม ได้มีระบบการปิดล๊อค และจัดให้มี จนท.เวรยามเฝ้ารักษาการณ์ รวมถึงในช่วงเวลาปกติจะมีระบบการตรวจสอบ กำกับดูแลที่เคร่งครัดตามนโยบายผู้บังคับบัญชาที่ได้สั่งการและเน้นย้ำให้อยู่เสมอ
แต่ด้วยกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้อาจค่อนข้างมีลักษณะพิเศษเกินกว่าระดับปกติ ที่ไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากผู้ก่อเหตุ เป็นกำลังพลที่ปฏิบัติงานในหน่วยดังกล่าว ซึ่ง จนท.เวรรักษาการณ์อาจมีความคุ้นเคยและไม่คาดว่าจะเข้ามาจู่โจม ทำร้ายกันด้วยความรุนแรง ถึงขั้นเกิดบาดเจ็บเสียชีวิต
โฆษกกองทัพบก ระบุว่า ส่วนการจะเข้าถึงอาวุธในคลังได้นั้น ผู้ก่อเหตุต้องใช้อาวุธทำร้าย จนท.เวรรักษาการณ์ รวมถึงต้องใช้อาวุธยิงทำลายเพื่อปลดล็อกกุญแจคลัง จึงจะเข้าไปเอาของภายในได้
ทั้งนี้เชื่อว่าขณะนี้ทางหน่วยคงอยู่ในขั้นดูแลรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ดีที่สุดเป็นลำดับแรก จากนั้นเมื่อสถานการณ์ในส่วนนี้คลี่คลาย อาจมีการพิสูจน์ทราบในรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหน่วย โดยเฉพาะสำหรับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่เวรยามในภาวะปกติกรณีเผชิญเหตุวิกฤติ เพื่อที่อาจจะสามารถนำไปปรับเสริมมาตราการที่ใช้อยู่ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย