รัฐสภา 7 ก.พ.- นักวิชาการ ชี้ศาลรธน.ให้โหวต ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 63 วาระ2 และ 3 ใหม่ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและลดแรงกระเพื่อมในรัฐบาล
นายยุทธพร อิสระชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ ให้นำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กลับมาลงมติใหม่ในวาระที่ 2 และ 3 ว่า ศาลรัฐธรรมนูญวางแนวทางวินิจฉัยใหม่ อาจจะพิจารณาโดยใช้หลักการต่าง ๆ ประกอบกับหลักนิติศาสตร์ โดย คำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ เพราะถ้าพิจารณาโดยเนื้อกฎหมายและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 3 และ 4/2557 อาจจะทำให้กฎหมายเป็นโมฆะทั้งฉบับได้
นายยุทธพร กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก็สามารถส่งร่างพระราชบัญญัติไปให้วุฒิสภาได้ และหลังจากนี้เป็นที่เชื่อมั่นได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ความเชื่อมั่นทางการเมืองก็จะกลับมาด้วย เพราะหากถูกชี้ว่าร่างพระราชบัญญัติงบประมาณต้องตกไปทั้งฉบับ เรื่องนี้จะถูกนำมาเป็นประเด็น ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นปลายเดือนนี้ และอาจจะเป็นแรง กระเพื่อมส่งไปถึงรัฐบาลด้วย
ส่วนจะยึดคำวินิจฉัยใดเป็นบรรทัดฐาน เนื่องจากกรณีกดบัตรแทนกัน ตอนคดีเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกที่เป็นโมฆะนั้น นายยุทธพรกล่าวว่า จะต้องดูในรายละเอียดของคำวินิจฉัย ว่ามีการสร้างความแตกต่างใน 2 ประเด็นนี้อย่างไร เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันกับทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ต้องปฏิบัติตาม
นายยุทธพร กล่าวด้วยว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 120 ระบุไว้ชัด ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 คนมีสิทธิ์ออกเสียงได้ 1 เสียง และตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรข้อที่ 80 ก็เขียนไว้ชัดว่า การลงคะแนนแทนกันจะกระทำมิได้ ดังนั้นแม้ว่าจะให้ลงคะแนนใหม่ แต่ในตัวส.ส.ที่กดบัตรแทนจะต้องมีความผิด และถูกดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมายเช่นกฎหมายป.ป.ช. และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาต่าง ๆ ต่อไป.-สำนักข่าวไทย