กทม.23 พ.ย. – ตำรวจแฉ”ณรงค์ อินลี”ฉ้อโกงเงินเหยื่อจากสมัครร่วมงานกดไลก์ กดแชร์สินค้าแบรนด์ ค่าตอบแทนสูง สร้างความเสียหายทั่วประเทศเป็นเงินเกือบ 140 ล้าน อายัดทรัพย์อื้อ
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุมนายณรงค์ อินลี เจ้าของบริษัท Nice Review (NRV) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ถนนรัชดาฯ กรณีหลอกผู้เสียหายให้ร่วมกดแชร์ กดไลก์ สินค้าแบรนด์ต่างๆ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องนำเงินมาเป็นค่าประกันการทำงานตั้งแต่ 1,500-20,000 บาท จะได้ค่าจ้างการทำงานวันละ 20-200 บาท แต่หากอยากได้เงินค่าจ้างมากกว่านี้ ต้องไปชักชวนบุคคลอื่นมาทำงานหรือวางเงินเพิ่มหน่วยค่าประกันการทำงานมากขึ้น โดยในช่วงแรกผู้ต้องหาจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินสดและโอนเข้าบัญชี แต่ธนาคารเห็นความผิดปกติจึงมีการจำกัดวงเงินการโอน นายณรงค์ จึงเปลี่ยนไปจ่ายด้วยหน่วยสกุลเงินบิทคอยน์ที่ชื่อ NRV ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเงินสกุลดังกล่าวทางบริษัทสร้างขึ้น ทั้งที่จริงแล้วเงินสกุลดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลอื่นไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาควบคุมและปั่นราคาของบิทคอยน์สกุลเงินนี้เองและพบว่ามีการใช้พอร์ตของกลุ่มผู้เสียหายในการฟอกเงินทั้งหมดเพื่อให้ง่ายต่อการเบิกหรือถอนโดยไม่ผ่านการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางธนาคาร
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ถูกจับกุมขณะหนีไป สปป.ลาว เพื่อเดินทางต่อไปเวียดนาม เมื่อวานนี้(22 พ.ย.) จนกระทั่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม สอบปากคำ ก่อนนำตัวไปยื่นขอฝากขังต่อศาลอาญา ถนนรัชดาฯ ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือในการให้ปากคำและไม่ยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ได้จากการฉ้อโกงผู้เสียหายรวมถึงกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เก็บเงินสกุล NRV ที่แลกเปลี่ยนแล้ว
จากการสืบสวนพบว่า ไม่ได้มีการจ้างงานกดไลก์ กดแชร์จากบริษัทตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ส่วนการสืบสวนของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร.ในพื้นที่เป้าหมายของบริษัทดังกล่าว ทั้งที่เป็นตัวแทนของผู้ต้องหาในการติดต่อลูกค้า เส้นทางการเงิน และพยานหลักฐานต่างๆทั่วประเทศ รวม 44 เป้าหมาย 49 จุด สามารถตรวจยึดคอมพิวเตอร์จำนวน 41 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 28 เครื่อง ซิมโทรศัพท์ 159 อัน สมุดบัญชีธนาคาร 10 เล่ม รายชื่อลูกค้า 1,300 ราย และเอกสารต่างๆของบริษัทอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมอายัดรถหรู 2 คัน มูลค่ากว่า 7,000,000 บาท โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ บ้านเดี่ยว ย่านลาดพร้าว 3 หลัง คอนโดมิเนียมในซอยสุขุมวิท 16 จำนวน 4 ห้อง อาคารสำนักงานของบริษัทในซอยนวลจันทร์มูลค่า 26 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา แบ่งเป็นบัญชีของนายณรงค์ 9 บัญชีมูลค่า 50 ล้านบาท บัญชีของบริษัท 3 บัญชี มูลค่า 50 ล้านบาท บัญชีของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง 2 บัญชี
ส่วนตรวจสอบข้อมูลความเสียหายทั่วประเทศพบว่า ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีผู้เสียหายมากที่สุดจำนวน 299 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 120 ล้านบาท รองลงมาคือพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 82 ราย ความเสียหายมากกว่า10 ล้านบาท รวมจำนวนผู้เสียหายในคดีมากถึง 400 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 140 ล้านบาท
รัฐมนตรีกระทรวงอีดี เปิดเผยว่า จะมีการเรียกทางธนาคาร และเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มาประชุมร่วมกันเพื่อหารือแนวทางการป้องกันไม่ให้คนร้ายสามารถก่อเหตุในลักษณะแชร์ลูกโซ่ และจำกัดวงเงินความเสียหายรวมถึงหาแนวทางในการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินตลาดเงินบิทคอยน์.-สำนักข่าวไทย