กทม.-13 พ.ย.-อดีตภรรยามือยิงในศาล จ.จันทบุรี เชื่อ ชนวนเหตุจากความเครียดหลังไม่ได้รับความเป็นธรรม ศึกมรดกที่ดินจากปมฟ้องเท็จ ปกปิดทายาท
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงกันในศาลจังหวัดจันทบุรี ทั้งฝ่าย พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ ผู้ก่อเหตุสลด และครอบครัวของคู่กรณีที่ถูกยิงเสียชีวิตคือนายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ และ นายวิจัย สุขรมย์ ทนายความ เดินทางมารอรับศพทั้ง 3 ศพ
นางเขมจิรา บัณฑูรนิพิท ทายาทหนึ่งใน 6 คน ของนายสมพล โกศลานันท์ เจ้าของที่ดินที่เสียชีวิตไปแล้ว และเป็นอดีตภรรยาของ พล.ต.ต.ธารินทร์ ผู้ก่อเหตุยิงฝ่ายโจทก์ พร้อมลูกสาวและทนายความหญิง มาติดต่อขอรับศพอดีตสามี พร้อมเปิดสาเหตุที่อดีตสามีลงมือก่อเหตุร้าย เพราะถูกกดดัน เกิดความเครียดสะสม เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งยังถูกฝ่ายโจทก์ ไปร้องเรียนจะถอดยศจากการเอาเวลาราชการมาทำคดี และที่ผ่านมาเวลาขึ้นศาลมักมีการโต้เถียงกันบ่อยครั้ง เคยส่งนิ้วกลางในห้องพิจารณาคดี ฝ่ายโจทก์ยังมีท้าตบกับทนายความหญิงฝ่ายจำเลยหน้าศาล ทะเลาะกันหลายครั้ง ส่วนตัวได้เลิกรากับ พล.ต.ต.ธารินทร์มา 4 ปี รู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียและไม่อยากให้อดีตสามีตายฟรี
นางเขมมิกา ยังระบุปมปัญหาคือ การแถลงเท็จปกปิดทายาท”โกศลานันท์”ว่ามี 3 คน ทั้งที่ความเป็นจริงมี 6 คน โดยฝ่ายโจทก์อ้างว่า ซื้อที่ดินจ่ายครบ 14 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2550 แล้วไม่โอน จึงมาทวงจากทายาท และเกิดการฟ้องร้องกัน แต่โจทก์ไม่มีสัญญาซื้อขาย ไม่มี นส.3 คือ กระดุมเม็ดแรกที่ปกปิดปัญหาฟ้องเท็จ นายสมพล ขายที่ดินให้กับนายบุญช่วยแล้ว จากการบอกเล่ามารดาขายที่ดินดังกล่าวให้พระ โดยเป็นการทำบุญเรี่ยไรเงินมาซื้อจำนวน 4,000 ไร่ ราคาไร่ละ 3,000 บาท เป็นเงินจำนวน 12 ล้านบาท เมื่อปี 2515 โดยผ่อนชำระแต่ชำระกันไม่หมด ค้างชำระ 2.5 ล้านบาท จึงขอตั้งคำถามว่าหากซื้อขายและโอนกันแล้ว ทำไมมีมีเอกสารการโอน เป็นไปได้หรือที่ซื้อที่ดินแต่ไม่มีการโอน การต่อสู้คดีเป็นเรียกร้องความเป็นความเป็นธรรม และต้องการทำตามศรัทธาของญาติโยม ที่ทวงคืนที่ดินให้กลับสู่สมบัติของพระพุทธศาสนา
นางเขมมิกา บอกว่า หลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ส่วนตัวอยากให้รื้อคดีใหม่ทั้งหมด เพราะต้นตอปัญหามาจากการฟ้องเท็จ นส.3 เอกสารที่ดิน 4,000 ไร่หาย แต่ไม่เคยแจ้งความ ซ้ำยังปกปิดทายาท โดยเจตนาของอดีตสามีที่ต้องมาเสียชีวิต เพราะเป็นคนรักความยุติธรรม เห็นว่าเป็นที่ดินของพุทธศาสนา จึงต้องการเข้ามาช่วยและ ขอให้มีการพิสูจน์ความจริง
นางเขมิกา ยังขอโทษฝ่ายทนายความที่เสียชีวิต ส่วนตัวไม่อยากให้เกิดความรุนแรงแบบนี้ แต่ที่ผ่านมาการขึ้นศาลก็โต้เถียงกันบ่อย พร้อมเรียกร้องให้มูลนิธิมาร่วมพิสูจน์ความจริงเพื่อนำที่ดินคืนพระพุทธศาสนา และ อยากให้คดีนี้เป็คดีตัวอย่าง เมื่อมีหลักฐานราชการปรากฏก็ควรจะให้ความเป็นธรรม หลักฐานที่ได้คือ หลักฐานการเสียภาษี หลักฐานการบริจาค ที่ระบุชัดเจนว่าเป็นชื่อของมูลนิธิ ไม่ใช่ของฝ่ายโจทก์ รวมถึงอยากให้ ติดตามกรณีที่ดิน จ.ชลบุรี 600 ไร่ ที่ดินใน จ.สงขลา 300 ไร่ นอกเหนือจากที่ดิน 4,000 ไร่ ว่าหายไปไหนหมด.-สำนักข่าวไทย