ขอนแก่น 7 พ.ย. – ปัจจุบันมีขบวนการต้มตุ๋นทางออนไลน์จำนวนมากหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อร่วมลงทุน ตั้งแต่เงินหลักสิบไปจนถึงหลักล้าน ทั้งในรูปของโปรเงินบุญ เงินรากหญ้า เงินมรดก เงินฝากเทรด โดยนำผลตอบแทนสูงมาล่อใจ สูงสุดมากกว่าล้านล้านบาท ส่งผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก
โลกการติดต่อสื่อสารไร้พรมแดน นำความสะดวกสบายมาสู่ผู้คน กำเนิดสังคมออนไลน์อย่างแอปพลิเคชัน “ไลน์” ให้ได้ทักทาย แลกเปลี่ยนข่าวสารกัน แต่เมื่อทุกคนเข้าถึงได้ มิจฉาชีพจึงสบโอกาสเข้ามาใช้ช่องทางนี้เช่นกัน
นี่คือโปรโมชันของสายงานหนึ่งที่อ้างผลตอบแทนมหาศาล ลงทุนเพียง 5,000 บาท จะได้มากถึง 75 ล้านล้านบาท แม้เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ แต่สายงานนี้ยังมีคนหลงเชื่อทั่วประเทศนับหมื่นคน ขณะที่บางสายออกโปรในราคาต่ำสุดเพียง 10 บาท จะได้ผลตอบแทนถึง 45 ล้านบาท กลุ่มคนที่มีพฤติการณ์คล้ายคลึงกัน มีทั้งอ้างโครงการเงินบุญ เงินรากหญ้า เงินมรดก เงินฝากเทรด เป็นต้น
ทีมข่าวแฝงตัวเข้าไปในไลน์สแควร์กลุ่มขายโปรต่างๆ ราว 3 เดือน พบว่า มีการนัดจ่ายเงินเกือบทุกสัปดาห์ แต่มีอันต้องเลื่อนทุกครั้ง ด้วยข้ออ้างติดขัดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มาตลอด มีการแอบอ้างหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐว่ารับรู้ เห็นชอบโครงการเหล่านี้ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ปปง. ดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น มีการแจ้งข่าวสมาชิกถึงขั้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เซ็นปลดล็อกเงินตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสมาชิกคนใดได้รับเงิน โดยบอส แอดมิน หรือหัวสาย จะปล่อยคลิปเสียงกล่อมสมาชิกให้เชื่อมั่นศรัทธาเป็นระยะ
หญิงชาวขอนแก่นคนนี้ ร้องเรียนว่า แม่ของเธอตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินบุญ เงินรากหญ้ามา 5 ปีแล้ว ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ซื้อโปรกับสายใด จากที่เคยมีเงินใช้จ่ายในครอบครัวอย่างสบาย ทุกวันนี้มีหนี้พอกพูนถึง 500,000 บาท เพราะแม่ซื้อไว้หลายสาย หลายโปร และคอยโอนเงินที่เรียกว่า “ค่าดันงาน” ทุกเดือน ล่าสุดอยู่ระหว่างเอาบ้านไปจำนอง เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ความอบอุ่นครอบครัวหดหาย ทะเลาะมีปากเสียงกัน แม่วัยใกล้เกษียณมีอาการติดไลน์ ดูกระวนกระวาย เศร้าหมอง ไม่มีความสุข ไร้สัญญาณการเป็นเศรษฐีระดับประเทศตามคำชักชวนของคนขายโปร ไม่ต่างจากสมาชิกในห้องไลน์ขายโปร ที่พยายามสะท้อนความเดือดร้อนระหว่างรอเงินบุญแบบไร้จุดหมาย
ผู้สันทัดกรณีที่ติดตามแก๊งต้มตุ๋นออนไลน์มาตลอด 5 ปี คาดการณ์ว่า มีกลุ่มไลน์หลอกลวงลักษณะเดียวกันนี้กว่า 200 กลุ่ม สมาชิกหลายแสน หรืออาจถึงหลักล้านคน มีคนที่รู้ตัวว่าถูกหลอกทยอยคืนเงินบางส่วน และแจ้งความประปราย ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานเจ้าภาพเข้ามาจัดการปัญหานี้. – สำนักข่าวไทย