fbpx

พิสูจน์แล้ว! ไม่พบสารพิษในแท็งก์น้ำวัดหนองเข้

อุทัยธานี 5 พ.ย.- นายอำเภอสว่างอารมณ์เผยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 3 แจ้งผลตรวจวิเคราะห์แล้วไม่พบสารพิษในแท็งก์น้ำวัดหนองเข้ หลังเจ้าอาวาสวัดเกิดข้อสงสัยในบางคน 


กรณีเจ้าอาวาสวัดหนองเข้ ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ตรวจสอบน้ำในแท็งก์น้ำของวัด เพราะสงสัยมีผู้ไม่หวังดีผสมสารปนเปื้อน ทำให้พระและฆราวาสที่มาทำบุญเกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง กระทั่ง พล.ต.ต.พันธุ์เทพ ถึงทรัพย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเร่งหาข้อเท็จจริงและมีการนำตัวอย่างไปส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 3 นครสวรรค์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์


นายชัยวัฒน์ พงษ์บุญ นายอำเภอสว่างอารมณ์ กล่าวว่า ทางอำเภอได้รับหนังสือแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ตัวอย่างน้ำดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้แจ้งให้วัดหนองเข้ทราบผลเช่นกัน รวมถึงผู้ใหญ่บ้านและผู้เกี่ยวข้อง โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 3 นครสวรรค์ ระบุว่าการตรวจไม่พบสารเคมีกำจัดวัชพืช ชนิด Paraquat, Alachicr, Atrazine, Glyphosate ตรวจไม่พบสารเคมีกำจัดหนู ชนิด Warfarin, Coumarin และตรวจไม่พบสารเคมีกำจัดแมลง กลุ่ม Organophosphates, Organochlorines, Carbamates, Pyrethroids

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะไม่ขอแสดงความคิดเห็นใด ๆ เพื่อความเป็นกลางและความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนกรณีมีข้อสงสัยโยงถึงคณะกรรมการวัดหรือบุคคลอื่น ๆ นั้นจะดำเนินการอย่างไร เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องมาพูดคุยปรับความเข้าใจกัน


ด้านนายสุวัฒน์ เขม่นเขตการ ผู้ใหญ่บ้านหนองเข้ หมู่ 12 กล่าวว่า รู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อทราบผลตรวจพิสูจน์น้ำ ที่ผ่านมาตนและชาวบ้าน รวมถึงคณะกรรมการวัดเสียใจเสียความรู้สึกมากเมื่อมีข่าวถูกพาดพิง แต่ขณะนี้ผลตรวจออกมาแล้วไม่พบสารพิษ เท่ากับเป็นสิ่งยืนยันความบริสุทธิ์ใจของทุกคน จากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไปขอหารือกับชาวบ้านและผู้เกี่ยวข้องก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553