ยโสธร 20 ก.ย. – วัดมัคคสัญจาราม จ.ยโสธร เปิดให้ชมพระพุทธรูปไม้แกะสลักเก่าแก่ อายุกว่า 200 ปี อยู่ภายในอุโบสถโบราณ ชาวบ้านเชื่อเป็นพระพุทธรูปไม้ศักดิ์สิทธิ์ ขอพรประสบผลสำเร็จดังหวัง
ที่วัดมัคคสัญจาราม บ้านเหมือด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เป็นที่ตั้งของสิม หรืออุโบสถเก่าแก่ อายุกว่า 200 ปี ภายในมีพระพุทธรูปไม้แกะสลัก ปางมารสะดุ้ง เป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่า พระพุทธรูปไม้แกะสลักองค์นี้สร้างขึ้นเมื่อใดและมีอายุกี่ปีกันแน่ แต่จากการบอกเล่าของชาวบ้านต่อกันมาว่า พระพุทธรูปไม้ หรือหลวงพ่อไม้ องค์นี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี แกะสลักจากไม้เนื้อแข็ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นไม้อะไร มีความสูง 165 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 21 นิ้ว ที่บริเวณฐานด้านหน้าแกะสลักเป็นรูปกลีบบัว 4 เหล่า ส่วนฐานด้านหลังแกะสลักเป็นรูปคนฟ้อนรำและรูปสุนัขเห่าหอน โครงสร้างของตัวสิม ผนังจะทำจากดินเหนียวที่ปั้นเป็นก้อน 4 เหลี่ยมแล้วนำมาเรียงกันขึ้นก่อนฉาบด้วยดินเหนียวอีกชั้น
โครงสร้างของอุโบสถ ผนังทำจากดินเหนียวที่ปั้นเป็นก้อน 4 เหลี่ยม แล้วนำมาเรียงกัน ก่อนฉาบด้วยดินเหนียวอีกชั้น แต่ปัจจุบันมีการบูรณะใหม่ จึงมีการฉาบปูนทับ ส่วนโครงหลังคาทำด้วยไม้ มุงสังกะสี
ส่วนที่หน้าบัน ทางด้านหน้าสิม มีภาพเขียนสีน้ำเป็นรูปเทพพนม และด้านหลังมีภาพเขียนเป็นรูปราหูอมจันทร์ ใต้กันลงมามีรูปการละเล่นพื้นบ้านและการประกอบอาชีพของคนในสมัยก่อน ชาวบ้านเชื่อว่า อุโบสถหลังนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี เนื่องจากตามประวัติ ก่อสร้างวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2344 และมีเรื่องเล่ากันว่า บางคืนโดยเฉพาะคืนวันพระ จะมีคนมองเห็นแสงไฟ หรือดวงไฟสว่างไสวเต็มวัด ก่อนจะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นลูกแก้วที่เกิดจากปาฏิหาริย์ภายในอุโบสถแห่งนี้ ที่ผ่านมาเคยมีชาวบ้านที่มีลูกเล็กไม่สบาย หรือร่างกายไม่แข็งแรง มากราบไหว้ขอพรแล้วก็หาย บางคนขอโชคลาภก็ได้ดังหวัง
พระครูปลัดพิเชษฐ์ ยสินธโร เจ้าอาวาสวัดมัคคสัญจาราม เผยว่า จากการบอกต่อกันมาของผู้เฒ่าผู้แก่ภายในหมู่บ้านและเจ้าอาวาสวัดรูปก่อนๆ เล่าว่า นำพระพุทธรูปไม้องค์นี้มาจากประเทศลาว ขณะนั้นยังไม่มีอุโบสถ จึงมีการนำผ้าขาวมาคลุมไว้ จนเมื่อการก่อสร้างอุโบสถแล้วเสร็จ จึงนำเข้ามาประดิษฐานภายใน
จุดเด่นขององค์พระ คือ บริเวณฐานด้านหน้ามีการแกะสลักเป็นรูปกลีบบัว 4 เหล่า เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ฐานด้านหลังแกะสลักเป็นรูปคนฟ้อนรำและสุนัขเห่าหอน เป็นคติธรรมเปรียบเหมือนถ้าเราทำดีแล้วก็อย่าไปสนใจคนนินทา ซึ่งปัจจุบันเจ้าอาวาสตั้งชื่อให้ใหม่ว่า พระพุทธมหาชนะชัยศรีสุวรรณภูมิ. – สำนักข่าวไทย