fbpx

รมว.ศธ.ไม่เบรคแต่งดำ ค้านปรับโครงสร้างกระทรวงฯ

ศธ.30 ต.ค.-รมว.ศธ.ยืนยันยังไม่มีการปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาฯหลังครูนัดแต่งดำประท้วง ขอเวลาให้คณะทำงานศึกษาผลกระทบต่อทุกฝ่าย ย้ำการศึกษาไทยต้องเดินหน้า 


นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกลุ่มบุคลากรทางการศึกษานัดแต่งชุดดำคัดค้านปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาฯ ว่า หลังตัวแทนบุคคลากรทางการศึกษาเข้าพบวานนี้ (29 ต.ค.) ได้มีการพูดคุยอธิบายว่าในเรื่องต่างๆ ว่าเพิ่งตั้งคณะทำงานต้องให้เวลาศึกษาด้านความเหมาะสม แต่เหตุผลหลักของการปรับโครงสร้างกระทรวงฯ คือต้องการลดความทับซ้อน ในเรื่องของบุคลากรใช้งบประมาณและการดำเนินงานด้านการศึกษา 


ส่วนจะมีการปรับโครงสร้างอย่างไร ขณะนี้ต้องปล่อยให้คณะทำงานศึกษารายละเอียดก่อน ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรในตอนนี้ จึงไม่อยากให้กังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ตนมั่นใจว่าทุกเรื่องที่กระทรวงฯ จะเดินไปข้างหน้า คำนึงถึงเด็กและเยาวชนเป็นหลักและผู้เกี่ยวข้องต้องมีผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งเรื่องของผลประโยชน์หรือความก้าวหน้าของตำแหน่ง

ส่วนกรณีหลังการพูดคุยทำความเข้าใจตัวแทนบุคลากรทางการศึกษาแล้วจะยังคงแต่งดำประท้วงอีกหรือไม่นั้น รมว.ศึกษาฯ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ยืนยันจะแก้ปัญหาให้เร็วและดีที่สุด แต่บางปัญหาสะสมมานานที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข  จึงต้องขอเวลาในการพิจารณา บางเรื่องต้องใช้เวลาเป็นปี แต่หากครบ 1 ปีแล้ว ตนยังบริหารจัดการไม่ได้ ถือว่าไม่สามารถทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เพิ่งเข้ามาทำงานเพียง 3 เดือน จึงต้องตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องตามระเบียบ 

รมว.ศึกษาฯ กล่าวย้ำว่าจะดูโครงสร้างที่เหมาะสมเป็นหลักเข้าใจว่าทุกคนที่มาแสดงความคิดเห็นน่าจะมาในฐานะประชาชน เพียงแต่อยากให้ดูเรื่องความเหมาะสมที่เสียไปเรื่องเวลาเรียนเวลาสอนนั้น เหมาะสมหรือไม่ อยากให้มาเข้าพบเสาร์หรืออาทิตย์ ส่วนที่มีการเผยแพร่โครงสร้างใหม่   ในการยุบตำแหน่ง และยุบเขตพื้นที่การศึกษานั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง พร้อมเตรียมประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีมีการแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแล้วว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง