นครนายก 2 ต.ค.- เยาวชน 260 ที่ผ่านการคัดเลือกทั่วประเทศ จาก 27 โรงเรียน เข้าร่วมโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ สนองแนวพระราชดำริ เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้บริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน นำไปพัฒนาและต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกจากการส่งข้อเสนอโครงการด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ ที่เกิดจากการริเริ่มหรือขยายผล และขับเคลื่อนเยาวชน กลุ่มละ 1 โครงการ ความยาวไม่เกิน 5หน้ากระดาษA4 จำนวน 260 คน จากทั่วประเทศ จะได้เข้าค่ายกับโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ สนองแนวพระราชดำริ เป็นระยะเวลา 4 วัน 3 คืน โดยโครงการนี้ต้องการให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และน้อมนำแนวพระราชดำริไปปรับใช้ในการจัดการทรัพยากรน้ำของโรงเรียนหรือชุมชน ให้เยาวชนได้มีความรู้ความเข้าใจและนำเทคโนโลยีไปใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อสร้างเครือข่ายการเรียนรู้เรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำของโรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อให้เยาวชนเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือสังคม และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และเพื่อให้เยาวชนขยายเครือข่ายความร่วมมือเรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำ ในภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ และชุมชน
นายเกียรติศักดิ์ ชูเกียรติศักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงละคร กล่าวว่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ เป็นมูลนิธิที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงสร้างไว้ในการบริการจัดการน้ำเพื่อให้คนไทยได้มีน้ำใช้ในหน้าแล้งและน้ำไม่ท่วมในยามน้ำหลาก สำหรับตำบลดงละครได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการนี้จึงได้ขอเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2558 เนื่องจากตำบลดงละครมีแหล่งน้ำเยอะ มีลำคลองกว่า 20 สาย หนองน้ำกว่า 30 แห่ง ซึ่งโครงการนี้ก็จะให้ผู้ที่ร่วมโครงการทำการศึกษาและบริหารจัดการน้ำด้วยตัวเอง จากนั้นก็ขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงเหมือนจิ๊กซอ ซึ่งหากจิ๊กซอกระจายไปทั่วประเทศและสามารถมาต่อกันได้สมบูรณ์ก็จะสามารถป้องกันน้ำท่วมน้ำแล้งได้ และในวันนี้เป็นโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ได้นำเยาวชน นักเรียน นักศึกษา จากเครือข่ายน้ำชุมชนทั่วประเทศ มาฝึกการบริการจัดการน้ำและการปลูกหญ้าแฝก เพื่อให้สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นสู่รุ่น
ด้านนายวีรชัย ศรีผล หนึ่งในเยาวชนที่ได้เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า ได้รับทั้งความรู้ความสนุกแล้วได้น้อมนำเอาแนวคิดพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.9)ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและโครงการที่พวกเราทำ นอกจากได้รับความรู้แล้วยังได้รับการยังได้รับความสนุกสนานจากการร่วมกิจกรรม ได้รับทักษะกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบคิดอย่างเชื่อมโยงที่ท่าน ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ได้ให้ข้อมูลและให้ความรู้
“เราสัญญาว่าเราจะนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการนี้ไปพัฒนาและต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติของเราให้ได้มากที่สุด วันนี้เรามาทำกิจกรรมในช่วงตอนเช้าจะเป็นกิจกรรมปลูกแฝก ซึ่งแบบนี้เป็นพืชที่สามารถอุ้มดินแล้วก็ชะลอความชุ่มชื้นได้ซึ่ง เราได้รับความรู้จากทางท่านวิทยากรแล้วเราก็จะมาลงพื้นที่ทำกิจกรรมที่นครนายก” นายวีรชัย กล่าว
สำหรับโครงการพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2551 ปัจจุบันมีเครือข่ายโรงเรียน 297 โรงเรียน และกลุ่มเยาวชน 45 กลุ่ม รวมเป็น 342 กลุ่ม ซึ่งในปีนี้กิจกรรมค่ายรอบประเมินของโครงการ เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนได้พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามแนวพระราชดำริ โดยเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เยาวชนได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน อันจะนำไปสู่การพึ่งพาตนเองด้านทรัพยากรน้ำของชุมชนที่เยาวชนเหล่านั้นเป็นเจ้าของ รวมถึงเชื่อมโยงไปสู่เยาวชนกลุ่มอื่นๆ จนเกิดเป็นเครือข่ายการบริการจัดการทรัพยากรน้ำผ่านกระบวนการคิด ไตร่ตรอง ตัดสินใจ และลงมือปฏิบัติร่วมกัน นอกจากนี้เยาวชนจะได้รับทักษะการประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่แนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนได้ในที่สุด โดยการประกวดพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ ได้จัดประกวดต่อเนื่องมาแล้ว 12 ปี โดยดำเนินงานภายใต้มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน.-สำนักข่าวไทย