กรุงเทพฯ 1 ต.ค. – กฟน.พร้อมรับมือฝุ่น PM 2.5 รอบใหม่ เริ่มเปิดระบบพ่นน้ำบรรเทาปัญหา
นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อเวลา 06.00 น. ของวันนี้ (1 ต.ค.) โดยพบปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 41-79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก.ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพเกินเกณฑ์มาตรฐาน 22 พื้นที่ (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก.ลบ.ม.) โดยค่าฝุ่นละอองสูงสุดอยู่ที่ริมถนนดินแดง เขตดินแดง และริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ สำหรับที่ตั้งของอาคารวัฒนวิภาส สำนักงานใหญ่ กฟน. ตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน พบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ที่ 62 มคก.ลบ.ม. ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ นั้น
ทั้งนี้ กฟน.มีความตระหนักในการมีส่วนร่วม เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงเริ่มเปิดใช้ระบบพ่นละอองน้ำลดฝุ่น PM 2.5 บนดาดฟ้าอาคารวัฒนวิภาส กฟน. สำนักงานใหญ่ คลองเตย อีกครั้ง โดยอาคารดังกล่าวเป็นอาคารสูง 25 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 4 และได้มีการติดตั้งระบบพ่นด้วยหัวฉีดละอองน้ำมากกว่า 500 หัวฉีดบนดาดฟ้า เพื่อใช้ดำเนินการพ่นละอองน้ำเพื่อลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ 2562 และกลับมาเปิดระบบอีกครั้งวันนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น PM 2.5 จนกว่าจะคลี่คลาย
นางสาวผาสุก กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญของการเกิดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 คือ การปล่อยไอเสียจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ กฟน.จึงพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและช่วยเหลือประชาชนลดปัญหาฝุ่นละออง โดยการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งภาคประชาชนและขนส่งมวลชน เพื่อลดการปล่อยมลพิษได้อย่างยั่งยืน โดยปัจจุบัน กฟน.ถือเป็นองค์กรแรกในประเทศไทยที่นำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในกิจการ ตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์ไฟฟ้า แทนการใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงอื่น ๆ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทั้งจากการปล่อยไอเสีย หรือมลภาวะทางเสียง
นอกจากนี้ กฟน.ยังมีการจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งที่ทำการของ กฟน. ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 12 สถานี ครอบคลุมทั่วเขตจำหน่ายของ กฟน. พร้อมร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอื่น ๆ ในการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับความต้องการการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต และสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนผู้ที่กำลังตัดสินใจใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดย กฟน.จัดทำ “MEA EV” เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ดาวน์โหลดฟรี ทั้งระบบ IOS และ Android คลิก https://goo.gl/F6C5bV ด้วยฟังก์ชั่นออกแบบพิเศษที่สามารถค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้งของ กฟน. และของหน่วยงานอื่น ๆ ตลอดจนการจองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ มีระบบนำทางไปยังสถานีชาร์จพร้อมควบคุมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชั่นทันที การแจ้งข้อมูลประวัติการชาร์จ การคำนวณอัตราการประหยัดพลังงาน รวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต.-สำนักข่าวไทย