นครนิวยอร์ก สหรัฐ 25 ก.ย. – นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการเปิดอภิปรายทั่วไป การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 พร้อมหารือนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศและออสเตรเลีย ตอกย้ำความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุน เพิ่มพูนมูลค่าการค้าระหว่างกัน และให้ความร่วมมือกับอาเซียนในทุกมิติ
สำหรับภารกิจวันที่ 3 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง) ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองที่นายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรอง เพื่อต้อนรับประมุขและหัวหน้ารัฐบาลที่เข้าร่วมการเปิดอภิปรายทั่วไป การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 และคู่สมรส ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ก่อนเข้าร่วมการเปิดอภิปรายทั่วไป การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 และในเวลา 11.45 น. นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีกับ ชีค ฮาซีนา นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ โดยการพบปะกันของทั้ง 2 ประเทศได้เห็นพ้องที่จะเพิ่มพูนมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยอาศัยกลไกคณะกรรมการร่วมทางการค้าที่มีอยู่ และผลักดันให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การนี้นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนบังกลาเทศลงทุนในโครงการ EEC และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ซึ่ง BOI จะมอบสิทธิประโยชน์แก่นักลงทุน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ แสดงความสนใจอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารของไทย พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมเป็นประเทศคู่เจรจาของอาเซียนด้วย
จากนั้นเวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมการบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของออสเตรเลียเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำความสำคัญของความตกลง RCEP ต่อการเติบโตและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งไทยในฐานะประธานอาเซียนจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับออสเตรเลีย เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมในการเจรจา RCEP ให้มีผลอย่างเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ และแสดงความสนใจเข้าร่วม CPTPP ที่ว่าด้วยความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก โดยเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมในเรื่องการค้า การบริการ และการลงทุน เพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก ทั้งในประเด็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลไกแก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ
ด้านนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า พร้อมผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับไทย รวมถึงออสเตรเลียกับอาเซียน โดยชื่นชมบทบาทที่เข้มแข็งของไทยในฐานะประธานอาเซียน และออสเตรเลียหวังให้มีการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย เป็นประจำทุกปี
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ อาทิ ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน อาหาร พลังงาน เทคโนโลยี การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งจะประสานงานกับฝ่ายออสเตรเลียในรายละเอียดต่อไป. – สำนักข่าวไทย