กรุงเทพฯ 7 ก.ย.-นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
เปิดเผยระหว่างตรวจเยี่ยมการทำงานของท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย
(กทท.) ว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของท่าเรือแหลมฉบังครั้งนี้
ได้มอบนโยบายให้ กทท.บูรณาการด้านการขนส่งสินค้าเชื่อมกับระบบราง
เนื่องจากพบว่าปัจจุบันสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางมีอยู่เพียง 7%
ซึ่งต้องการให้ปรับเพิ่มเป็น 30%
จึงขอให้เร่งหารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)
นอกจากนี้ต้องการให้ท่าเรือแหลมฉบัง
ยกระดับเป็นท่าเรือสมาร์ทพอร์ท ขนถ่ายสินค้าด้วยระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ
และต้องวางแผนพัฒนาท่าเทียบเรือ A5
เพื่อรองรับการเชื่อมต่อเส้นทางเดินเรือ บางสะพาน จ.ประจวบฯ – ท่าเรือแหลมฉบัง
ตามนโยบายที่จะลดปริมาณการจราจรแออัดบริเวณถนนพระราม 2
และกรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน
ได้รับทราบความคืบหน้าของแผนพัฒนาศักยภาพท่าเรือแหลมฉบัง
ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถรองรับตู้สินค้าจาก 11
ล้าน ที.อี.ยู ต่อปี เพิ่มเป็น 18 ล้าน ที.อี.ยู ต่อปี
ส่วนความคืบหน้าการเปิดประมูลท่าเรือแหลมฉบังระยะที่
3 อยู่ระหว่างขั้นตอนประมูลจัดหาเอกชนร่วมลงทุน
คาดว่าหากไม่ติดขั้นตอนทางกฎหมาย จากกรณีที่เอกชนยื่นศาลปกครองกลาง คุ้มครองชั่วคราวเพื่อระงับการคัดเลือก
คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะสามารถเจรจากับเอกชนที่มีคะแนนสูงสุด
และลงนามสัญญาร่วมทุนได้ภายในเดือน ตุลาคมนี้.-สำนักข่าวไทย