เพชรบุรี 4 ก.ย. – ภรรยา “บิลลี่” เผยรู้สึกโล่งใจ หลังดีเอสไอแถลงผลตรวจดีเอ็นเอ แต่อยากถามว่า “บิลลี่” ทำอะไรผิดถึงโดนฆ่า พร้อมวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
จากกรณีดีเอสไอแถลงความคืบหน้าคดี นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ พอละจี นักมนุษยชนและนักต่อสู้เพื่อสิทธิทำกินของชาวกะเหรี่ยง สูญหาย ล่าสุดพบหลักฐานสำคัญภายในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี คือ ชิ้นส่วนกระดูก 2 ชิ้น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร 1 ถัง เหล็กเส้น 2 เส้น ถ่านไม้ 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน ถังน้ำมัน เหล็กเส้น ซึ่งผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่าเป็นนายบิลลี่จริง หลังหายตัวไป 5 ปี โดยกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้าย ถูกความร้อนอุณหภูมิ 200-300 องศาฯ แต่ยังไม่ทราบวิธีทำให้เสียชีวิต
วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ ที่บ้านพัก ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี น.ส.พิณนภา บอกว่า เพิ่งทราบข่าวเรื่องผลการตรวจดีเอ็นเอ จากการแถลงของดีเอสไอ เมื่อวานนี้ เบื้องต้นรู้สึกโล่งใจที่ได้ทราบว่า บิลลี่มีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว เพราะได้รู้แล้วว่าอยู่ที่ไหน แต่อยากจะถามว่า บิลลี่ทำอะไรผิดถึงโดนฆ่า และทุกคนก็รู้ว่า ใครอยู่กับบิลลี่เป็นคนสุดท้าย
สิ่งที่คาดหวังต่อจากนี้ คือ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และอยากจะถามว่า บิลลี่ไปทำอะไรให้ใคร ทำไมถึงทำกับเขาอย่างนี้ หลังบิลลี่หายตัวไป ชีวิตตนและครอบครัวลำบาก เพราะต้องดูแลลูกทั้ง 5 คน เพียงคนเดียว ส่วนการประกอบพิธีศพให้บิลลี่ ต้องรอให้ดีเอสไอเสร็จสิ้นกระบวนการก่อน จึงจะขอรับกระดูกมาประกอบพิธีทางศาสนาของชาวกะเหรี่ยง ท้ายที่สุดต้องขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะดีเอสไอที่ติดตามสืบสวนและค้นหา กระทั่งพบความจริง. – สำนักข่าวไทย