กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – ก.ล.ต.เผยมีลูกค้าบิทคอยน์สอบถามศูนย์ฯ 200 ราย พร้อมกำชับการโอนทรัพย์สินคืนลูกค้าให้เรียบร้อย
ตามที่บริษัท บิทคอยน์ จำกัด ประกาศว่า “บริษัท บิทคอยน์ จำกัด ( BX) ได้ตัดสินใจยุติธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการให้บริการด้านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Asset Wallet) วันที่ 30 กันยายน 2562 และทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งศูนย์แนะนำช่วยเหลือผู้ลงทุนเฉพาะกิจ เพื่อดูแลผู้ลงทุนที่เป็นลูกค้า BX ก.ล.ต.แจ้งว่าข้อมูล ณ เวลา 18.00 น. วานนี้ (2 ก.ย.) มีผู้ลงทุน BX โทรเข้ามาที่ศูนย์แนะนำช่วยเหลือผู้ลงทุนเฉพาะกิจประมาณ 200 ราย ส่วนใหญ่สอบถามเรื่องวิธีการโอนเหรียญ/โอนเงิน/เปลี่ยนศูนย์ซื้อขายฯ
สำหรับลูกค้าของ BX จะต้องรับโอนทรัพย์สินมาที่กระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ของตนเอง หรือศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (exchange) รายอื่น หรือสั่งขาย หรือหากลูกค้ามีเงินสดก็สามารถโอนออกไปยังบัญชีของตนเองได้ ทั้งนี้ บริษัทแจ้งว่าจะยังทำธุรกิจจนถึงสิ้นเดือนกันยายน หลังจากนั้นจะยังเปิดให้ลูกค้าทำคำสั่งถอนทรัพย์สินได้ตามปกติ ซึ่ง ก.ล.ต.ได้กำชับให้บริษัทดูแลทรัพย์สินของลูกค้าและดำเนินการตามความประสงค์ของลูกค้าในการขอรับคืนทรัพย์สิน หรือโอนทรัพย์สินให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการให้แก่ ก.ล.ต.ทราบเป็นระยะ และเมื่อบริษัทได้ทำการคืนทรัพย์สินให้ลูกค้าทั้งหมด หรือบริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีวิธีการดูแลหรือจัดการทรัพย์สินของลูกค้าที่เหลืออยู่อย่างเรียบร้อย บริษัทจึงจะสามารถเข้าสู่กระบวนการคืนใบอนุญาตต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้
ทั้งนี้ ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการคืนใบอนุญาต ก.ล.ต.ยังมีอำนาจในการกำกับดูแลและสั่งการให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้ความคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเต็มที่
กรณีที่ลูกค้าประสงค์ขอโอนย้ายทรัพย์สินดิจิทัลไปซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ อื่นในต่างประเทศ เมื่อได้รับเงิน (fiat money) แล้ว จะสามารถนำเงินกลับประเทศได้หรือไม่ สามารถทำได้โดยผ่าน PayPal USD หรือสามารถโอนกลับเข้ามาที่บัญชี Foreign Currency Deposit (FCD) ที่เปิดที่ธนาคารพาณิชย์ไทยได้ โดยต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ก.ล.ต.ขอเตือนว่าผู้ลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากอาจมีผู้ฉวยโอกาสนี้หลอกลวงให้ผู้ลงทุนหลงเชื่อว่าเป็นช่องทางของ BX ในการรับโอนเงินหรือสินทรัพย์ดิจิทัล จึงขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลและติดต่อที่เว็บไซต์ข้างต้นของ BX.in.th โดยตรงเท่านั้น หรือลูกค้าสามารถขอคำแนะนำได้ที่ Help Center ของ ก.ล.ต. หมายเลข 1207 กด 7 หรืออีเมล info@sec.or.th 24ชั่วโมง 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2562 เวลา 6.45 น. เป็นต้นไป
ส่วนขั้นตอนการคืนใบอนุญาต BX นับจากวันประกาศจะเลิกประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น การคืนทรัพย์สินลูกค้าหมด หรือกรณีมีทรัพย์สินค้าง BX ต้องวางทรัพย์กับกรมบังคับคดี หรือมีวิธีการจัดการทรัพย์สินของลูกค้าเรียบร้อย จึงสามารถยื่นคำขอเข้าสู่กระบวนการขอเลิกประกอบธุรกิจฯ ได้
ทั้งนี้ มีผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจ exchange แล้ว 3 ราย (รวมบริษัทที่จะเลิก ) ส่วนผลกระทบที่คาดว่าจะมีต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ก.ล.ต.มองว่ากรณี BX เป็นเรื่องเฉพาะบริษัท ซึ่งบริษัทยังไม่ได้ปิดการให้บริการทันที ดังนั้น จึงต้องใช้ระยะเวลาในการติดตามผลกระทบ อย่างไรก็ดี ก.ล.ต.จะวิเคราะห์เรื่องนี้เปรียบเทียบกับพัฒนาการของตลาดในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ก.ล.ต.มีนโยบายที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาเป็น digital infrastructure ของตลาดทุนไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งยังส่งผลดีต่อผู้ลงทุน และประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการด้วยต้นทุนที่ลดลง .- สำนักข่าวไทย