อุดรฯ 29 ส.ค. – รมว.เกษตรฯ เร่งวางแนวทางป้องกันและบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำอีสานกลาง ด้านกรมชลฯ เผยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่น้ำน้อยอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง 5 แห่ง จาก 12 แห่ง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมกำหนดมาตรการและบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เขื่อนห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี โดยกล่าวแสดงความเป็นห่วงตอนกลางของภาค ซึ่งปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนหลักน้อย เขื่อนขนาดใหญ่ที่มีน้ำน้อยกว่า 30% มี 5 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ เขื่อนห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี เขื่อนลำตะคอง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำแซะ จังหวัดนครราชสีมา และเขื่อนลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นห่วงประชาชนที่ประสบภาวะฝนทิ้งช่วง จึงกำชับให้กระทรวงเกษตรฯ วางมาตรการระยะยาวเพื่อป้องกันและบรรเทาภัยแล้งหลังสิ้นสุดฤดูฝน จึงมีนโยบายให้เร่งปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำสู่เขื่อน ขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติ แหล่งน้ำประจำท้องถิ่น และแก้มลิงต่าง ๆ อีกทั้งพื้นที่ท้ายเขื่อนให้สร้างฝายชะลอน้ำ จะสร้างพื้นที่เก็บกักน้ำเพิ่มขึ้น 1-2 ปีนี้
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือขณะนี้มีพื้นที่ในเขตชลประทานประสบภัยแล้ง 9 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ อุบลราชธานี ยโสธร นครพนม อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งช่วยเหลือด้วยการสูบน้ำส่งเข้าสู่คลองชลประทานและจัดส่งรถบรรทุกน้ำไปให้ทุกพื้นที่ ส่วนพื้นที่ประสบอุทกภัย 5 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ได้ช่วยเหลือด้วยการสูบน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง เปิดบานระบายน้ำของลำน้ำที่ไปบรรจบกับลำน้ำโขง และเร่งผลักดันน้ำออกเพื่อแก้ไขและบรรเทาผลกระทบต่อพื้นที่เกษตร” นายเฉลิมชัย กล่าว
ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งเดินหน้าโครงการเพิ่มศักยภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กและแก้มลิง ทำให้มีน้ำเสริมไว้ใช้ยามหน้าแล้ง วันนี้ (29 ส.ค.) รัฐมนตรีเกษตรฯ ได้มาตรวจสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีน้ำอยู่เกณฑ์น้อย คาดว่าเมื่อถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งเริ่มต้นฤดูแล้งจะมีน้ำ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 22% ของความจุอ่างไม่เพียงพอที่จะส่งน้ำเพื่อการทำนาต่อเนื่อง แต่วางแผนจัดสรรเพื่อการเพาะปลูกพืชน้ำน้อยและการว่าจ้างแรงงานตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีงบประมาณ 2563 เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชี ซึ่งมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 3 แห่ง ขนาดกลาง 69 แห่ง และขนาดเล็ก 50 แห่ง ปริมาตรน้ำใช้การได้ 472 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 12% ของความจุรวม ทั้งน้ำแม่น้ำชีมีความยาว 1,047 กิโลเมตร พื้นที่ชลประทาน 1,303,404.63 ไร่ ครอบคลุม 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ อุดรธานี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ที่ผ่านมาหากฝนทิ้งช่วงจะมีน้ำไม่เพียงพอ ขณะที่การพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนในพื้นที่ลุ่มน้ำมีน้อยงไม่พอเพียง พื้นที่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำประจำท้องถิ่น ส่วนในฤดูน้ำหลาก แหล่งเก็บกักน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะเก็บน้ำได้หมด ทำให้เกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะปีที่ฝนมากน้ำในอ่างเก็บน้ำมีมากต้องเพิ่มการระบายส่งผลให้น้ำท่วมพื้นที่ท้ายน้ำ ดังนั้น จึงจะเร่งนำนโยบายเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำของรัฐมนตรีมาดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย