fbpx

“เสี่ยเบนซ์” ขอบคุณครอบครัว “รองตี๋” ให้อภัย ลั่นเลิกดื่มตลอดชีวิต

กทม. 31 ก.ค. – “เสี่ยเบนซ์” ขอบคุณครอบครัวรองผู้กำกับกองปราบปราม ที่ให้อภัย ขอให้ไปสู่สุคติ สัญญาจะรับดูแลลูกสาวทั้งสองคนให้ดีที่สุด


ภายหลังฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดตลิ่งชัน ในคดีที่นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ เมาซิ่งรถเบนซ์ ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถยนต์ซูซูกิ สวิฟต์ สีขาว ทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร บนสะพานคลองตาปุ้น ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก จนเป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือ รองตี๋ อายุ 48 ปี รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ป. และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยา เสียชีวิต ส่วน ด.ญ.พิชญาภา หรือน้องแพร อายุ 12 ปี ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา


นายสมชาย จำเลยในคดี ออกมาขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายที่ให้อภัย และขอบคุณศาลที่ให้โอกาสในการกลับตัวเป็นคนดี รวมถึงขอบคุณสังคมที่ให้อภัย หลังจากนี้จะมอบเงินให้บุตรสาวทั้งสองคนของ พ.ต.ท.จตุพร คนละ 10,000 บาทต่อเดือน และค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว 20,000 บาท รวมเดือนละ 40,000 บาท เป็นระยะเวลา 8 ปี พร้อมฝากไปถึงผู้เสียชีวิตว่าขอให้ไปสู่สุคติสู่ภพภูมิที่ดี และสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวทั้งสองคนให้ดีที่สุด

ตนเองเป็นผู้กระทำความผิด จึงไม่กล้าสอนหรือแนะนำอะไรให้กับผู้ดื่มแอลกอฮอล์ว่าควรทำตัวอย่างไร แต่สำหรับตนเองนั้นตัดสินใจจะเลิกดื่มแอลกอฮอล์ตลอดชีวิต ตอนนี้รู้สึกโล่งใจมาก หลังจากเครียดมานานกว่า 3 เดือน 


ขณะที่บุตรสาวทั้งสองคนของผู้เสียชีวิต คือ ด.ย.พิชญาภา หรือ น้องแพร งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี และ น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล หรือ น้องพลอย อายุ 16 ปี กล่าวว่า ในช่วงแรกยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อจิตใจและกระทบต่อการเรียน แต่สุดท้ายสามารถผ่านมาได้ เนื่องจากได้รับกำลังใจจากครอบครัว เพื่อนๆ และสังคม นอกจากนี้ตนให้อภัยและไม่รู้สึกโกรธแค้น รวมถึงคู่กรณีได้ดูแลเป็นอย่างดี หลังจากนี้จะตั้งใจเรียน เพราะมีความฝันอยากเป็นหมอจะได้รักษาคน

ขณะที่พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนคดีระบุว่า ศาลพิพากษาตามคำฟ้องของอัยการครบถ้วน ขั้นตอนต่อไปจะรายงานผลคำพิพากษาให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง