นนทบุรี 22 ก.ค.-หนุ่มปักกุญแจรถเข้ากะโหลกกู้ภัย ยอมรับทำไปเพราะโมโห มือกำกุญแจไว้แล้วชกไปที่หัว ไม่คิดว่าจะปักหัว ยอมชดใช้ค่าเสียหาย บอกไม่อยากติดคุก
เพจ Rider Gossip ได้นำภาพสุดหวาดเสียวมาโพสต์และมีคนแชร์กันเยอะ โดยเป็นภาพของผู้บาดเจ็บรายหนึ่งถูกกุญแจปักเข้าที่ศีรษะบริเวณขมับ และมีภาพเอกซเรย์เห็นกุญแจปักทะลุเข้าไปถึงกะโหลกศีรษะ โดย พร้อมระบุข้อความว่า หนุ่มขับHondaหัวร้อนเอากุญแจเสียบกระโหลกคันหน้า น้องผู้บาดเจ็บเล่าว่าขับรถมาปกติ แล้วของเกิดหล่นจึงเบรกกระทันหัน เพื่อลงไปเก็บของ แต่รถมอเตอร์ไซค์คันหลังไม่พอใจหาว่าขับรถกวน….. น้องผู้บาดเจ็บยกมือไหว้ขอโทษแต่ไม่เป็นผล หนุ่มขับHonda เข้าทำร้ายโดยการใช้กุญแจรถต่อยไปที่หัวของน้องผู้บาดเจ็บตอนยกมือไหว้ และในเวลาต่อมากู้ภัยได้นำน้องส่ง รพ. ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว อยู่ระหว่างกำลังดำเนินคดี รอผลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าพบสอบถามนายกิตติพล งามเชื้อ อายุ 18 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ทำงานเป็นอาสาฯ กู้ภัย วันเกิดเหตุได้รับแจ้งเหตุในซอยเรวดี 49 จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบ แต่ระหว่างทางมีลูกระนาดทำให้โทรศัพท์หล่นจึงกลับรถเพื่อไปเก็บ ขณะนั้นนายอรรถกร สาขา อายุ 20 ปี เจ้าหน้าที่เปล โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ขับรถมาพอดี เกิดความไม่พอใจด่าว่าตนเองว่าขับรถกวนตีน จอดรถกวนตีน จึงยกมือไหว้ขอโทษ 3-4 รอบ แต่นายอรรถกร ไม่ยอมหยุด วิ่งเข้ามาต่อย เมื่อชกต่อยเสร็จ นายอรรถกร ได้เดินย้อนกลับไปที่รถ และเดินกลับมาหาตนเอง บอกว่า “เอากุญแจรถกูคืนมา ตนเองบอกผมไม่รู้ว่ากุญแจพี่อยู่ไหน คู่กรณีบอกว่า อยู่บนหัวมึงไง” ตนเองจึงจับไปที่ศีรษะและรู้สึกเจ็บ เลยบอกคู่กรณีว่า ผมเอาออกไม่ได้ ผมเจ็บ ตอนนั้นเริ่มมีอาการมึน จึงรีบขับรถมาขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่อีกคน โดยมีคู่กรณีนั่งซ้อนท้ายมาด้วย
ภายหลังนายอรรถกร เดินทางมาหาตนเองพร้อมครอบครัว เพื่อขอโทษ ตอนนั้นยังมีอาการบาดเจ็บ และได้ยินเสียงไม่ชัดเจน และทราบว่านายอรรถกร มาเจรจาขอให้จบเรื่อง โดยยื่นข้อเสนอว่าจะออกค่ารักษาให้ 3,000-4,000 บาท หลังถูกทำร้ายร่างกาย ยังมีอาการปวด มึนงง และสะดุ้งตื่นตลอดเวลา ต่อจากนี้แพทย์จะตรวจสอบว่ายังมีเลือดคั่งในสมองหรือไม่
ด้านนายอรรถกร กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย แต่วันเกิดเหตุตนเองขับรถกำลังจะกลับบ้าน เมื่อนายกิตติพลจอดรถทำให้ต้องเบรคกะทันหันเกือบไม่ทัน โมโหมากประกอบกับมีอาการเมาด้วย จึงต่อยนายกิตติพลโดยที่มือกำกุญแจไว้ ไม่คิดว่าจะปักหัว เมื่อมาที่รถกุญแจไม่อยู่ จึงเดินกลับไปหา เห็นกุญแจปักอยู่ที่หัวก็ตกใจ จึงบอกให้ไป รพ.โดยตนเองนั่งซ้อนท้ายไปด้วย แต่นายกิตติพล กลับขับรถไปที่บ้านของรุ่นพี่ที่อยู่ในซอยเรวดี หลังไปถึงบ้านของรุ่นพี่ ตนเองก็ถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน และได้เดินทางเข้าแจ้งความด้วย ส่วนเรื่องที่ตนเองต่อยเขา ก็ยอมรับผิด ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งนี้อยากขอไกล่เกลี่ยกับผู้บาดเจ็บ เนื่องจากฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวย และไม่อยากติดคุก
ส่วนความคืบหน้าของคดี เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน หลังจากนี้ต้องรอให้คู่กรณีมีอาการดีขึ้นก่อน จึงจะเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย