พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมขับเคลื่อนงานนอกสภาฯ 4 พันธกิจ

พรรคอนาคตใหม่ 24 มิ.ย.-คณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้านฯ เตรียมขับเคลื่อนงานนอกสภาฯ ชู 4 พันธกิจ “แก้ รธน.-ล้างคำสั่ง คสช.-ซักฟอกรัฐบาล-เน้น ประชาชนมีส่วนร่วมการทำงาน”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานคณะกรรมการฯ มีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานของคณะทำงาน ซึ่งมีหน้าที่หลัก คือ รณรงค์ให้เกิดการเรียนรู้ประชาธิปไตยอย่างสันติวิธี สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งเสริมให้รัฐบาลมีธรรมาธิบาล สนับสนุนให้มีการตรวจสอบจริยธรรมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงแม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะกำหนดให้เรื่องต่าง ๆ เป็นหน้าที่ของรัฐ แต่ก็ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการติดตามตรวจสอบด้วยเช่นกัน

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน รองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า จะกำหนดบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ให้ชัด ทั้งในแง่กระบวนการและเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการล้มล้างมรดกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ความชอบธรรมจากที่มาของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ผลักดันให้เกิดประชาธิปไตยตามหลักนิติธรรม ขับเคลื่อนการทำงานทั้งในและนอกสภาอย่างสร้างสรรค์


จากนั้น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้านฯ แถลงผลการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า มีพันธกิจหลัก 4 ด้านเร่งด่วน คือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ นำประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย 2.การล้างมรดกบาปของ คสช. คำสั่งลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน 3.ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ตามหลักธรรมาภิบาล ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ตำแหน่ง ระหว่างดำรงตำแหน่ง และหลังดำรงตำแหน่ง 4.สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน

ส่วนกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านนั้นตรงกัน ที่ผ่านมามีการยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อพรรคการเมืองบางพรรคเป็นรัฐบาลเท่านั้น นี่ก็คือข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ที่ประชาชนเห็น ดังนั้นโจทย์คือจะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไรให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด เพื่อให้ยึดโยงกับประชาชน ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ให้คนบางกลุ่มบางพวกเขียน แต่ให้เป็นรัฐธรรมนูญของทุกคนในประเทศ ที่มีความเท่าเทียมกัน มาจากการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งขณะนี้เริ่มรับฟังเสียงประชาชนแล้ว

“หากประเมินจากโพลหลายสำนัก ประชาชนสะท้อนว่าอยากให้แก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงยุบสภาด้วยซ้ำ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ติดโซเชียลหนักก่อนหน้านี้จะพบว่า ประชาชนไม่ได้เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญเลย สำหรับสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งยังเข้าประชุม ครม.ชุดเก่าอยู่นั้น ฝ่ายค้านก็เตรียมดำเนินการเรื่องคุณสมบัติอย่างต่อเนื่อง ต้องไปให้สุดทางจนถึงศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน” นายอนุสรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง