พรรคพลังประชารัฐ 31 พ.ค.- “สมศักดิ์ เทพสุทิน”ปัดข่าวพาส.ส.ออกจากพปชร. ชี้ปล่อยข่าวให้เกิดความเสียหาย ทำให้ถูกมองว่า ตีรวนการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ยันสร้างปัญหาให้พรรคน้อยที่สุด ส่วนจะได้ตำแหน่งรมว.เกษตรฯ หรือไม่ อยู่ที่กก.บห.พรรคจะตัดสินใจ พร้อมยอมรับ มั่นใจพล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลได้
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกรณีที่มีเพจเฟชบุ๊กนำเสนอข่าว กลุ่มสามมิตรต่อรองตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ หากไม่ได้ตามที่ต่อรอง จะพาส.ส.กว่า 30 คน ไปร่วมกับพรรคการเมืองอื่น ว่า เป็นการปล่อยข่าวให้เกิดความเสียหาย หากไม่เข้าใจเรื่องการเมืองก็จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และอาจถูกมองว่า ตนและพวกเป็นพวกเกเร ตีรวน ในการจัดตั้งรัฐบาล ของพรรคพลังประชารัฐ ข้อเท็จจริงมีการพูดคุยกันเรื่องการทำงานในกระทรวงต่าง ๆ ที่กรรมการบริหารพรรคได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ข้อมูลที่ระบุว่าพรรคร่วมฯ จะได้กระทรวงต่าง ๆ ไปรับผิดชอบ ฟังแล้วพอรับได้ แต่การพูดที่ทำให้พรรคเสียหาย เหมือนเป็นพวกที่ไม่เข้าใจระบบพรรคการเมือง ว่าไม่ได้ดั่งใจแล้วจะขอย้าย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การทำงานของตนสร้างปัญหาน้อยที่สุด ตนเป็นคนมีศักดิ์ศรีทำงานมานานตั้งแต่อยู่พรรคกิจสังคม พรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคพลังประชารัฐ แม้ว่าพรรคนี้จะมีเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ผสม แต่ยังไงก็ไม่คิดจะหนี ย้ายไปจากพรรคพลังประชารัฐ จะปักหลักที่นี่ต่อไป เรื่องนี้ผู้ใหญ่ในพรรคไม่ได้ติดใจ แต่เมื่อมีข่าวออกมา ตนก็ต้องชี้แจง ถือว่าคนที่ออกมาปล่อยข่าวเป็นพวกไม่มีสมอง
ต่อข้อถามว่าในพรรคมีการแข่งขันกันสูง เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเตะ ขัดขากันเองภายในพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังมองไม่เห็นว่าใครจะเป็นคนทำ ไม่รู้ว่าเป็นคนในพรรคหรือนอกพรรค แต่ปล่อยข่าวแบบนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษ
เมื่อถามว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ตำแหน่งรมว.เกษตรฯ จะยอมได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตลอดช่วงเวลาหาเสียง ตนนำเสนอนโยบายต่อประชาชนในชนบท ขอให้เขาลงคะแนนให้ เพราะนโยบายที่จะไปช่วยเหลือเกษตรกร เมื่อถึงวันนี้ เราก็มีหน้าที่ทวงถามผู้บริหารพรรคว่าสิ่งที่ได้หาเสียง จะได้ผลเป็นอย่างไร จะส่งใครไปกระทรวงไหน แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่เป็นนายกรัฐมนนตรี จะเป็นคนเลือกและพิจารณาในขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้ง ตอนนี้การดีใจ การเสียใจ เป็นเพียงการคาดการณ์ แต่เรามีหน้าที่เสนอสิ่งที่เราดำเนินการและต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพราะเรามีสัจวาจากับชาวบ้านไว้แล้ว ส่วนกรรมการบริหารพรรคจะดำเนินการเช่นไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ไม่ควรมีปัญหาวุ่นวาย เพราะประเทศขาดความเป็นประชาธิปไตยมาหลายปี ตนไม่มีปัญหา เรื่องตำแหน่ง แต่พยายามทวงถาม สิ่งที่พบและหาเสียงกับประชาชนมาตลอด
เมื่อถามว่าจะยอมถอยเพื่อให้พรรคเดินต่อไปได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ที่กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้กำหนด เพราะเราได้เสนอไปแล้ว ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ เมื่อถามว่าพรรคจะมีปัญหาในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เวลาจะเป็นตัวช่วย นาทีนี้ยังโกรธกันรุนแรง แต่เวลาผ่านไปก็จะสามารถแก้ปัญหาผ่านไปได้ แม้พรรคการเมืองต่าง ๆ จะถูกคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ก็จะเป็นผู้พิจารณาอยู่ดี
เมื่อถามว่ารับได้หรือไม่ หากรายชื่อเมื่อถึงมือนายกฯ จะมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งที่ถูกเสนอ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา หากเป็นมติพรรค เมื่อถามย้ำว่าถ้าไม่ได้ตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ จะน้อยใจหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวที่เล่นทีจริงว่า คงร้องไห้
ต่อข้อถามว่าหากมีการเลือกนายกรัฐมนนตรี ก่อนฟอร์มทีมครม.จะเป็นเงื่อนไขให้ดีลต่าง ๆ ล่มหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองรักประเทศชาติ สุดท้ายต้องร่วมใจในการแก้ปัญหาอุปสรรคที่มีอยู่ ส่วนเสถียรภาพของรัฐบาลเชื่อว่าสุดท้ายก็จะลงตัว หลายพรรคพยายามเดินหน้าทำงานตามนโยบายของตัวเองให้มากที่สุด ส่วนประเด็นรัฐบาลปรองดอง เป็นเรื่องที่เคยพูดมาตลอด แต่จนถึงวันนี้เชื่อว่าไม่น่าจะมี และยังมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน
ส่วนข่าวปฏิวัติซ้ำนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนหลายกลุ่มในประเทศพยายามปล่อยข่าวแต่สุดท้ายก็มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น หัวใจสำคัญคือทำอย่างไรให้รัฐบาลอยู่ได้นาน หากพรรคการเมืองเข้มแข็ง มีผู้ใหญ่เข้าใจการเมือง รู้จักผ่อนสั้น ผ่อนยาวให้สมดุล ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ได้
นายสมศักด์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กรวดน้ำให้กลุ่มสามมิตร และไม่ต้อนรับกลับพรรคเพื่อไทย ว่า ไม่ได้ยินด้วยหูตัวเอง แต่คิดว่าเป็นเหมือนภาษิต องุ่นเปรี้ยว มะนาวหวาน ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ เคยเชิญตนไปพบที่บ้านก่อนเลือกตั้ง แต่ตนไม่ไป ตอนนี้ก็เหมือนกับองุ่นเปรี้ยว การที่คุณหญิงสุดารัตน์ พูดในบางคำพูด มองว่าเป็นถึงคุณหญิงไม่น่าจะเป็นคำพูดที่หลุดมาจากท่าน และตนเคยได้ยินคนในพรรคของท่าน พูดถึงท่านเหมือนกับที่ท่านพูดถึงผม และนึกไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมถึงให้ความสนใจผมมากขนาดนั้น .-สำนักข่าวไทย
