กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ว่า จากการที่ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดจะปรับตัวขึ้นเกิน 50 ดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นระดับที่สูง จึงมีแนวโน้มที่จะมีการขายทำกำไรออกมา ขณะที่ตลาดกำลังจับตามองการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐในงาน Jackson Hole Policy Symposium วันที่ 26 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะมีความสำคัญต่อสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ รวมทั้งค่าเงินเยนถ้าแข็งค่าขึ้นหรือลงไปต่ำกว่าระดับ 100 เยน/ดอลลาร์ จะเป็นลบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น
สำหรับตลาดหุ้นไทย ยังคงมีเงินทุนไหลเข้ามา แต่ก็ยังมีแรงขายทำกำไรในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปสูงมากหลังรายงานงบไตรมาสที่ 2 ดังนั้น บล.KTBST จึงคาดว่าตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีการพักฐาน ซึ่งตลาดจะหยุดพักฐานไปได้ก็ต่อเมื่อเห็นสัญญาณดัชนีผ่านระดับ 1,556 จุดไปได้ โดยมองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ 1,530-1,566 จุด และยังมองดัชนีในระยะกลางมีแนวโน้มที่จะไปถึงระดับ 1,600 จุดได้ โดยอาศัยปัจจัยบวกจากเรื่องกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่อออกมาดีและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การรายงานจีดีพี ไตรมาส 2 ของสหรัฐ ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตร้อยละ 1.1 ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ ตัวเลขยอดขายรถยนต์เดือนกรกฎาคมที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นจากฐานที่ลดลงของปีก่อนหน้าและการรายงานตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฎาคมของไทย ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมาดีจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ราคาน้ำมันน่าจะอยู่ที่กรอบ 45-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,320-1,380 ดอลลาร์สหรัฐ ด้านค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นมานั้นมองว่าเป็นการแข็งค่าเกินปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลจากเงินลงทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แต่มองว่าน่าจะเป็นการแข็งค่าระยะสั้นเท่านั้น คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.5-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย