ศูนย์ฯ สิริกิติ์ 21 ส.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจองโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐวันสุดท้าย สำหรับให้ประชาชนทั่วไป ข้าราชการ และลูกจ้างรัฐ ว่า ยังได้รับความสนใจจากประชาชนในการเข้ามาจองสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยบางส่วนมารอเข้าคิวตั้งแต่เวลาก่อนเปิดรับลงทะเบียนจองสิทธิ์เวลา 10.00 น. ซึ่งยังมีประชาชนและข้าราชการบางส่วนที่ยังไม่ทราบรายละเอียดและเงื่อนไขโครงการที่กำหนดไว้ ขณะที่ประชาชนบางส่วนเข้าใจว่าเป็นการจองสิทธิ์ซื้อที่อยู่อาศัย จึงบ่นเสียดายพร้อมเรียกร้องให้สร้างโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยและสามารถถือกรรมสิทธิ์ได้
น.ส.อมรรัตน์ กล่ำพลบ ผู้อำนวยการสำนักบริหาร ที่ราชพัสดุ กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข้าราชการและประชาชนสนใจจองโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐเกินเป้าร้อยละ 110 โดยจะเปิดจองต่อเนื่อง เพื่อสำรองผู้จองสิทธิ์ให้ได้ประมาณ 2 เท่า เพื่อสำรองสิทธิ์ก่อนคัดกรองคุณสมบัติผู้จอง สำหรับเฟส 2 พื้นที่ปทุมธานีและฉะเชิงเทราคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนจอง ขณะที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะเป็นพื้นที่พระราม 3 ส่วนรายละเอียดจะต้องศึกษาอีกครั้ง
ทั้งนี้ การจองสิทธิ์บ้านธนารักษ์ประชารัฐถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2559 มียอดจองเข้ามาแล้วรวม 1,612 ราย สำหรับโครงการที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.5050 ที่ราชพัสดุเดิมตรงข้ามวัดไผ่ตัน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 538 ราย รองลงมา คือ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ พบ.260 ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 464 ราย อันดับที่ 3 คือ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.2615 โรงกษาปณ์เก่า ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 318 ราย และอันดับ 4 แปลงหมายเลขทะเบียนที่ พบ.261 ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 292 ราย โดยผู้ที่จองสิทธิ์ในกรุงเทพฯ ต้องเป็นข้าราชการ-ลูกจ้างรัฐมีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน ส่วนจังหวัดเพชรบุรีให้ประชาชนเป็นบ้านหลังแรกเท่านั้น หลังจากนี้ผู้ที่จองสิทธิ์จะต้องส่งเอกสารให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน หลังวันจอง เพื่อทำการตรวจสอบคุณสมบัติ หากคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์จะมีการเรียกผู้จองสิทธิ์ลำดับถัดไปแทน
สำหรับ 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเช่าระยะสั้น 5 ปี ในเขตกรุงเทพฯ 2 แปลงคือ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.5050 ที่ราชพัสดุเดิมตรงข้ามวัดไผ่ตัน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ เนื้อที่ ประมาณ 3-1-79 ไร่ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 432 ยูนิต ให้ข้าราชการเช่า มูลค่าโครงการ 286 ล้านบาท เป็นของ บมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้ และที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.2615 โรงกษาปณ์เก่า ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ เนื้อที่ ประมาณ 2-1-48 ไร่ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 350 ยูนิต ให้ข้าราชการเช่า มูลค่าโครงการ 240 ล้านบาท เป็นของบริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน คอนสตรัคชั่น ยาไถ๋ (ไทย) คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป รวมเป็น 782 ยูนิต
ส่วนโครงการเช่าระยะยาว 30 ปี สำหรับประชาชนทั่วไปที่ต้องการมีบ้านหลังแรก อีก 2 แปลง จังหวัดเพชรบุรี เป็นแปลงหมายเลขทะเบียนที่ พบ.260 ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เนื้อที่ประมาณ 29-3-95 ไร่ และแปลงหมายเลขทะเบียนที่ พบ.261 ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เนื้อที่ประมาณ 22-1-79 ไร่ ลักษณะการก่อสร้างเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น รวม 660 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 690,000 -710,000 บาทต่อยูนิต มีบริษัท กลอรี่ แมนเนจเมนท์ จำกัด เป็นผู้พัฒนาทั้ง 2 โครงการ.-สำนักข่าวไทย