กทม. 17 พ.ค.-กรมการปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบร้านทอง และโรงรับจำนำ ย่านภาษีเจริญ ป้องปรามการเอารัดเอาปรียบ หรือฟอกเงิน
เจ้าหน้าที่กรมการปกครองลงพื้นที่ออกตรวจร้านทอง โรงรับจำนำ และร้านซื้อขายของเก่า ย่านถนนเพชรเกษม จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย ร้านทอง 2 แห่ง และโรงรับจำนำ 1 แห่ง เพื่อไม่ให้โรงรับจำนำและร้านค้าอื่นๆเป็นแหล่งฟอกเงิน ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการซื้อขายทรัพย์สิน หรือสิ่งของที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือรับของโจร
จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบการกระทำความผิด ทั้งนี้ กรมการปกครองมีอำนาจ ในการตรวจสอบตั้งแต่ร้านเปิดจนร้านปิดเท่านั้น โดยจะทำปีละ 2 ครั้ง ส่วนหน้าที่ของผู้ประกอบการโรงรับจำนำ ร้านซื้อขายของเก่า คือ ห้ามรับจำนำสิ่งของจากภิกษุ สามเณร หรือเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี , ห้ามรับจำนำหรือไถ่ทรัพย์จำนำ เวลาระหว่าง 18.00-08.00 น., ห้ามรับจำนำสิ่งของหรือทรัพย์สินของทางราชการ, ห้ามนำทรัพย์สินจำนำออกจากสถานประกอบการ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือให้พ้นจากอันตราย ห้ามเปิดร้านขายของหลุดจำนำในสถานประกอบการ
นายชัยวัฒน์ วงศางาม เจ้าหน้าพนักงานปกครองชำนาญการ กล่าวถึงกรณีลูกค้านำทองไปจำนำที่ร้านทองแห่งหนึ่งย่านถนนประชาอุทิศ แล้วไม่สามารถไถ่ถอนคืน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยและไถ่ถอนทองคืนเจ้าของแล้ว ส่วนผู้เสียหายอีก 5-6 คนที่เข้าแจ้งความว่า ถูกกระทำในลักษณะเดียวกันนั้นขอเวลาตรวจสอบให้ชัดเจน เนื่องจากร้านดังกล่าวยังปิดทำการ โดยจะเปิดให้บริการ 22 พฤษภาคมนี้ ทางกรมการปกครองจึงจะสามารถเข้าตรวจสอบได้ หากพบมีการทำผิดจริงจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมา
ด้านนางสาวจันทร์ทิพย์ ธนากิจรุ่งเรือง ผู้ประกอบการร้านทอง กล่าวว่า การสร้างความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้น ทางร้านทองต่างๆควรปฏิบัติตามข้อกำหนด และกฎหมาย ซึ่งการกระทำของร้านทองที่มีการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้ ถือว่ามีน้อยมาก เพราะเป็นการทำลายชื่อเสียงร้าน ไม่คุ้มกับการประกอบธุรกิจ พร้อมยอมรับเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อวงการร้านค้าทองพอสมควร ซึ่งจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา สุดท้ายอยากฝากประชาชนว่า ก่อนจำนำทอง ควรศึกษาหาข้อมูลของร้านต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก.-สำนักข่าวไทย