สงขลา 15 พ.ค. – จากกรณีช่างกุญแจพลเมืองดีพยายามเปิดประตูรถยนต์ช่วยเด็ก 1 ขวบ ติดอยู่ในรถที่ จ.สงขลา วานนี้ เกิดกระแสดราม่า เมื่อเจ้าของรถทวงถามถึงค่าเสียหายที่เกิดจากรอยขูดขีดขณะช่วยเหลือเด็ก ล่าสุดเรื่องนี้มีความคืบหน้าอย่างไร รวมทั้งตามหลักกฎหมายจะสามารถฟ้องร้องเอาผิดได้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน
เหตุการณ์เด็กหญิงวัย 1 ขวบ ติดอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณด้านหลังตลาดกิมหยง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังผู้เป็นแม่เผลอลืมกุญแจรีโมทไว้ภายใน จนรถเกิดล็อกอัตโนมัติ ไม่สามารถเปิดประตูรถได้ มีพลเมืองดี รวมทั้งเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้าให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งนางอรทัย แซ่ตัน หรือ พี่หนาย ช่างทำกุญแจ ที่ได้รับการประสานให้ไปช่วย แต่สุดท้ายกลับถูกถามถึงความรับผิดชอบกรณีที่รถเกิดความเสียหายจากความพยายามเปิดประตูรถเพื่อช่วยเด็ก ทำให้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโซเชียลขณะนี้
ตลอดทั้งวันนี้ พี่หนาย หรือนางอรทัย แซ่ตัน ช่างทำกุญแจ ซึ่งเปิดร้านอยู่บริเวณปากซอย 17/3 ถ.ราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ยังคงเปิดร้านให้บริการตามปกติ โดยมีผู้ที่ทราบข่าวเดินทางมาชื่นชมและให้กำลังใจต่อเนื่อง เธอบอกว่า รู้สึกดีใจที่สังคมเข้าใจและให้กำลังใจตัวเธอ ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับหญิงสาวเจ้าของรถแม่ของเด็กที่โทรศัพท์มาขอโทษ ซึ่งตนเองและอีกฝ่ายต่างไม่ติดใจเอาผิด จึงอยากให้สังคมให้อภัยอีกฝ่ายจากกรณีที่เกิดขึ้น
พี่หนาย บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้เป็นอุทาหรณ์ของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ที่มีเด็กอยู่ภายในรถ ไม่ให้ประมาท ส่วนตัวเธอจะยังคงทำหน้าที่ช่างกุญแจช่วยเหลือผู้อื่นตามกำลังความสามารถ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้บั่นทอนความตั้งใจดีของตนเองแต่อย่างใด
ด้านว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายกลุ่มทนายใจดี ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ในกรณีนี้เจ้าของรถถือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ มีอำนาจในการตัดสินใจ มีสิทธิแจ้งความเรียกร้องค่าเสียหายได้ แต่พลเมืองดีที่ให้การช่วยเหลือก็สามารถใช้สิทธิต่อสู้คดีให้เห็นถึงเจตนาสุจริตในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งศาลจะพิจารณาโดยดูจากเจตนาเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีนี้มีเด็กเล็กติดอยู่ภายในรถด้วย ซึ่งตามหลักแล้วจะต้องเร่งให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดตามเหตุอันสมควร เพื่อความปลอดภัย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า การทำความดีด้วยการช่วยเหลือผู้อื่นยามเดือดร้อน ยังคงเป็นสิ่งที่พึงกระทำ และการกระทำด้วยเจตนาที่ดี ย่อมได้รับการยกย่องจากสังคม และจะทำให้สังคมนี้น่าอยู่ต่อไป. – สำนักข่าวไทย