ส่องสินค้าส่งออกไทย รับผลกระทบสงครามการค้า

กทม. 14 พ.ค.-จับตาสงครามการค้า จีน – สหรัฐ ส่องสินค้าส่งออกจากไทยที่อาจได้รับผลกระทบ พาณิชย์เตรียมเรียกผู้ประกอบการหารือ


นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกของประเทศไปติดตามว่า กรณีสงครามการค้าสหรัฐและจีนจะมีผลกระทบกับประเทศไทยอย่างไรบ้าง และมาตรการที่ประเทศไทยควรจะดำเนินการ ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดการประชุม และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้กล่าวอะไรเป็นพิเศษ แต่ในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุมทูตพาณิชย์เข้าใจว่าจะมีการหารือกันเรื่องนี้


นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงสงครามการค้าสหรัฐกับจีนที่ต่างปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ากันและกัน ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกและเศรษฐกิจโลกปี 2562 เหลือเพียงร้อยละ 3 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.3-3.5 และยังส่งผลกระทบไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงไทย ทำให้การส่งออกของไทยลดลงเหลือร้อยละ 2.2- 4.6 จากร้อยละ 3.2-4.6 

สำหรับกลุ่มสินค้าไทยจะได้รับผลทางบวกและทางลบทั้ง 2 ตลาด ตลาดจีนสินค้าที่จะส่งออกลดลง ได้แก่ ยางและผลิตภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เคทีภัณฑ์ ขณะที่ส่งออกเพิ่ม ได้แก่ กลุ่มผลไม้สดและแปรรูป เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อาหารสัตว์ ส่วนตลาดสหรัฐสินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ ปุกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องนุ่มห่ม เครื่องจักร และสินค้าที่จะส่งออกได้มากขึ้น ได้แก่ ผลไม้สดและแปรรูป ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์


ทั้งนี้ ต้องติดตามว่าในอนาคตจีนจะลดค่าเงินหยวนลงอีกร้อยละ 20-25 เพื่อชดเชยส่วนที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้า ทำให้สินค้าจีนถูกลงและทะลักเข้ามาในไทยและอาเซียน รวมถึงเกิดการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในภูมิภาค CLMV มากขึ้น พร้อมทั้งเสนอรัฐเพิ่มมาตรการกีดกันทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ มากขึ้น หากจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วควรจะเร่งเดินหน้าเจรจาทำเอฟทีเอกับยุโรปโดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบวงกว้างและต้องกระจายการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย และแอฟริกาใต้ มากขึ้น พร้อมทั้งทำยุทธศาสตร์การค้าแบบคุณภาพสูงราคาต่ำให้กับสินค้าส่งออกไทย

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า จากการที่สหรัฐประกาศขึ้นภาษีสินค้าจากจีนเพิ่ม 2 ครั้ง มูลค่ารวมกว่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐตอบโต้มูลค่าประมาณ  60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นั้น สนค.ประเมินผลกระทบเบื้องต้นในส่วนของการขึ้นภาษีของสหรัฐที่ครอบคลุมสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ พบว่าอาจทำให้มูลค่าการส่งออกไทยลดลงประมาณ 5,600-6,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ครอบคลุมรายการที่ไทยส่งออกไปประเทศต่าง ๆ ประมาณร้อยละ 46 โดยตัวเลขดังกล่าวคำนวณจากทั้งการส่งออกไปสหรัฐทดแทนจีน การส่งออกไปจีน และการส่งออกสินค้าที่เป็นห่วงโซ่การผลิตจีนไปยังตลาดอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ไต้หวัน มาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งในกลุ่มสินค้า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐดังกล่าวการส่งออกไปสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 การส่งออกไปจีนมีแนวโน้มลดลงร้อยละ 9.7 และการส่งออกไปประเทศที่ 3 เป็น supply chain ลดลงร้อยละ 7.5 (ทั้งหมดเป็นตัวเลขของไตรมาสแรกปี 62 YoY) ขณะเดียวกันพบว่าการส่งออกไปสหรัฐ อินเดีย และเวียดนาม มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ในปีนี้ จึงเป็นตลาดที่ต้องเร่งส่งออกทดแทนจุดเปราะบางอื่น ๆ

นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะเชิญกลุ่มนักลงทุนและผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์และชิ้นส่วนมาหารือเบื้องต้นก่อน เพราะเป็นกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีรองนายกรัฐมนตรี หรือ รมช.พาณิชย์เป็นประธาน ก่อนที่จะมีการประชุมหารือกับทูตพาณิชย์ทั่วโลกในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อกำหนดเป้าหมายส่งออกต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เต้นฮากา

สส.เต้นฮากา ประท้วงในสภานิวซีแลนด์

ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภานิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ต้องระงับชั่วคราว หลังจากที่สมาชิกสภาหลายคนซึ่งเป็นชนเผ่าเมารี ได้ลุกขึ้นเต้นฮากา (haka) ขัดขวางการลงนามในกฎหมาย

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

จ่อชงหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป

รมว.คลัง รับเตรียมเสนอหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลัง “ทักษิณ” เปรยบนเวทีปราศรัย จ.อุดรธานี ชี้ใช้งบไม่มาก ยืนยันไม่ทับสิทธิกลุ่มเปราะบางเฟสแรก บอกมีเฟส 2-3

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

ข่าวแนะนำ

พะยูนตัวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวโผล่

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งพบพะยูนบริเวณหน้าเกาะลิบง จังหวัดตรัง เป็นตัวแรก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่