สงขลา 12 พ.ค.-“ส.ต.ท.” สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 1 ใน 6 เหยื่อถูกกลุ่มคนอ้างเป็นชุดสืบภาค 9 อุ้มขึ้นรถเรียกค่าไถ่ 500,000 บาท หอบเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ เบื้องต้นทราบตัว 4 ราย ทั้งตำรวจและหญิงสาวคนประสานงาน
จากกรณี ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป้องกันปราบปราม) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกกลุ่มบุคคลอ้างตัวว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 กว่า 10 นาย ยึดอาวุธปืนประจำกาย 2 กระบอก และอุ้มขึ้นรถยนต์กระบะ พร้อมกับกลุ่มเพื่อนชายที่ไม่ได้เป็นตำรวจอีก 5 คน เข้าเซฟเฮาส์ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเรียกค่าไถ่รวมกันเป็นเงิน 500,000 บาท และมีการต่อรองกันจนเหลือ 200,000 บาท โดยให้เป็นเงินสดและจำนำรถเก๋งส่วนตัว 1 คัน ก่อนถูกปล่อยตัวออกมา พร้อมกับคืนอาวุธปืน เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 ต่อเนื่องถึงช่วงเที่ยงของวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เรื่องยังไม่จบเมื่อมีการไปติดต่อขอไถ่ถอนรถคืนกลับถูกปฏิเสธว่าได้ขายต่อไปให้แก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ยะลา ในราคา 120,000 บาท จากแต่เดิมที่จำนำเอาไว้ 80,000 บาท และต้องเสียดอกเบี้ย 10% ต่อเดือน หากจะมาเอารถคืน รวมทั้งมีการส่งข้อความข่มขู่จากหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ติดต่อประสานงานระหว่างชุดอุ้มกับทางกลุ่มผู้เสียหาย โดยบอกให้จบเรื่อง หากไม่จบจะมีการเล่นงานด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ และยัดยาเสพติดใส่ในรถเก๋ง เพื่อให้หลุดจากวงการตำรวจ จนทางครอบครัวและญาติที่เป็นตำรวจด้วยกันไม่สามารถยินยอมต่อไปได้ กระทั่งมีการเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชานั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (11 พ.ค.) ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 1 ใน 6 ผู้เสียหาย พร้อมกับมารดา เดินทางนำเอกสารหลักฐาน ทั้งบันทึกข้อความ ขอความเป็นธรรมกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ พร้อมนำหลักฐานหน้าจอการสนทนา หลักฐานทางการเงินต่างๆ และใบจำนำทอง เพื่อดำเนินคดีกลับกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ที่อุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่ดังกล่าว ในฐานความผิด 4 ข้อหา คือ ร่วมกันทำความผิดต่อเสรีภาพ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง, ร่วมกันเรียกค่าไถ่ และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เบื้องต้นทราบตัวทั้ง 4 คนแล้ว เป็นตำรวจทั้งชั้นประทวนและสัญญาบัตร 3 นาย อีกรายเป็นหญิง ทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน และอ้างตัวเป็นภรรยาตำรวจ
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้พาตัว ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ไปชี้จุดที่เกิดเหตุ 2 จุด จุดแรกใน ซ.18 ถ.รัตนอุทิศ เทศบาลนครหาดใหญ่ จุดที่ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ขับรถเก๋งมาส่งเพื่อนที่บ้านพัก และพบกับกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ก่อนจะมีการชุลมุนกันขึ้น และทั้ง 6 คน ถูกอุ้มขึ้นท้ายรถยนต์กระบะมุ่งหน้าไปยังเซฟเฮาส์ใน ซ.5 ถ.ท่าไทร-บางหยี ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 15 นาที ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุจุดที่ 2 เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี นอกจากนี้ตำรวจยังให้ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ นำสำเนาบันทึกแจ้งความไปยื่นต่อตำรวจ สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา เพื่อตามหารถเก๋งส่วนตัวที่ถูกขายต่อมาอีกทอด และมีผู้ครอบครองอยู่ในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา และพบว่าเป็นรถที่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี
ล่าสุด พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ทราบเรื่องและสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และขอเวลาสะสางเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หากมีความผิดจริงดังที่ปรากฏก็จะต้องได้รับโทษทั้งทางอาญาและวินัยอย่างถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย