ศรีลังกาเกรงจะเสียรายได้ท่องเที่ยวเกือบ 48,000 ล้านบาท

โคลัมโบ 26 เม.ย.- นายมังคลา สามาราวีระ รัฐมนตรีคลังศรีลังกาเผยว่า รัฐบาลเกรงว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงถึงร้อยละ 30 ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 47,973 ล้านบาท) หลังเกิดระเบิดหลายระลอกเมื่อวันอีสเตอร์ 


นายสามาราวีระกล่าวว่า การท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด ศรีลังกาอาจต้องใช้เวลานานถึงสองปีจึงจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ เพราะโดยทั่วไปแล้วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อเหตุร้ายตามแบบของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส การท่องเที่ยวจะฟื้นคืนภายในหนึ่งถึงสองปีหากสามารถแก้ไขที่ต้นเหตุและดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งมีการสื่อสารที่ดี พร้อมกับยกเบลเยียม ฝรั่งเศส สเปน และตูนิเซียว่าเป็นตัวอย่างประเทศที่สามารถฟื้นตลาดท่องเที่ยวได้ภายในเวลารวดเร็ว 

รัฐมนตรีคลังศรีลังกาเผยด้วยว่า เดิมทางการตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 159,922 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 140,725 ล้านบาท) ในปีก่อน ตัวเลขอย่างเป็นทางการเผยว่า ไตรมาสแรกปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือน 740,600 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 จากปีก่อน นักท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดคืออินเดีย ตามด้วยจีนและอังกฤษ เขากำลังจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้สามารถผ่านพ้นผลกระทบจากเหตุระเบิดวันอีสเตอร์ให้ได้.-สำนักข่าวไทย


 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]