นายกฯขอทุกฝ่ายร่วมมือกันเดินหน้าประเทศ

240816-big1_20160824_1107025321จ.ร้อยเอ็ด 24 ส.ค.-นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด ประชุมหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชน ติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล เผยความจำเป็นเข้ามาบริหาร  ย้ำไทยเป็นหนึ่งเดียว ขอทุกคนเข้าใจช่วยกันเดินหน้าประเทศ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาต(คสช.) ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการดำเนินตามนโยบายรัฐบาล  โดยจะประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรมราชภัฏกรีนวิว มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจด้วยโมเดล “ร้อยเอ็ด 4.101” เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างโอกาส และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชน

ทั้งนี้ โมเดลดังกล่าวจะพัฒนาพื้นที่ทุ่งกลาร้องไห้ให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจ โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างมูลค่าข้าวหอมมะลิ การพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ดให้เป็นพื้นที่เป้าหมายการท่องเที่ยว “สามเหลี่ยมการท่องเที่ยวสาเกตนคร” การขยายบทบาทความเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ให้เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจทางด้านการลงทุน รวมถึงการสร้างโครงข่ายคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงกับเส้นทาง East – West Economic Corridor และเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายระบบชลประทานในลุ่มน้ำสำคัญ


ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้ทักทายและพูดคุยกับคณาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดที่มารอต้อนรับเกี่ยวกับความจำเป็นในการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี

“ที่ผ่านมาบ้านเมืองวิกฤต เพราะฉะนั้นไม่ใช่อะไร ๆ จะต้องประชาธิปไตยหรือประชามติอย่างเดียว และถ้ามันไม่เลวร้ายผมคงไม่เข้ามา อย่าคิดแต่เรื่องประชามติ ประชาธิปไตยอย่างเดียว มันกินได้หรือไม่  ประชาธิปไตยคือความเห็นต่างโดยไม่เอาปืนมาไล่ยิงคน ถามว่าใครยิงคน ทหารยิงหรือ ไปถามไอ้ลูกหมาโน่น  ต้องขอโทษนะที่พูดไม่เพราะ วันนี้ให้ช่วยกัน อย่าไปคิดเรื่องเดิม ๆ โดยเฉพาะเรื่องของความขัดแย้ง บ้านเมืองต้องแก้ไขโดยพวกเรา และตนไม่ได้คาดหวังอะไรสักอย่าง แต่กฎหมายละเว้นไม่ได้ ขอให้ไปบอกเพื่อน ๆด้วย จะให้ปล่อยตัวก็ไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย ทุกอย่างมีขั้นตอนและกระบวนการ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมว่า พร้อมจะเดินทางไปในทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใด จะชอบหรือไม่ชอบก็จะไป เพราะมีความตั้งใจและมีความปรารถนาดีกับทุกคน วันนี้พยายามจะร่วมมือกันที่จะให้ร้อยเอ็ดได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ  รวมทั้งการสร้างความเข้าใจกับพวกเราทุกคนและประชาชนในทุกมิติว่า วันนี้เรากำลังเดินหน้าประเทศกันอย่างไรและร้อยเอ็ดจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร  ซึ่งตนไม่ต้องการให้ประชาชน เข้าใจอะไรผิดหรือถูกบิดเบือน ต้องสร้างคนของเราให้รู้จักคิด เข้าใจเหตุผลและเข้าใจถึงหลักการในการพัฒนาประเทศและการใช้จ่ายงบประมาณ ต้องสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับทุกคนว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว มี 77 จังหวัด เพราะฉะนั้นจะต้องนึกถึงคนอื่นด้วย


“รัฐบาลไม่สามารถจะหางบประมาณเพิ่มเติมได้เลยในช่วงที่ผ่านมา  เพราะช่วงที่ผ่านมาไม่อยากจะใช้คำว่ามันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะแม้จะมีความเจริญอย่างไร แต่ก็เป็นความเจริญท่ามกลางอันตรายระยะยาว  ซึ่งเกิดจากความล้มเหลวทั้งหมด เพราะฉะนั้นการที่ต้องเข้ามาวันนี้ใช้เวลามา 2 ปี เพื่อแก้ปัญหา เพื่อจะเดินหน้าประเทศและสร้างความเข้าใจในทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภูมิภาคและท้องถิ่น ทุกคนต้องร่วมมือกันและเข้าใจตรงกัน  ไม่เช่นนั้นเราเดินหน้าต่อไปไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะรับฟังบรรยายสรุปการพัฒนาอ่างเก็บน้ำธวัชชัย อำเภอธวัชบุรี ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ดที่จะพัฒนาพื้นที่อ่างเก็บน้ำและพื้นที่โดยรอบกว่า 1800 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จากเดิมที่เป็นพื้นที่กักเก็บน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่เพียงอย่างเดียว  โดยเป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในรูปแบบประชารัฐ  โดยจะพัฒนาระยะแรก รวม 670 ไร่  สร้างพื้นที่เกาะเนื้อที่ 25 ไร่ จัดทำสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561 ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมปลูกต้นไม้ 9 ชนิด 84 ต้น ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำธวัชชัย และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 16.50 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]