กรุงเทพฯ 24 เม.ย.-ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้มีเตะ 2 คู่ วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมอันดับ 10 เปิดบ้านพบ อาร์เซนอล ทีมอันดับ 5 เวลา 01.45 น. ส่วนอีกคู่เป็นศึกดาร์บี้แมตซ์เมืองเชสเตอร์ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 เปิดโอลด์แทรฟฟอร์ด พบ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 02 เวลา 02.00 น. เกมนี้นอกจากจะเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีแล้ว ยังเป็นเกมที่เชื่อว่าแฟน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้องส่งใจเชียร์แมนฯยู เพื่อช่วยตัดแต้มแมนฯซิตี้ในการลุ้นแชมป์
เรามาดูความพร้อมของทีมเจ้าถิ่น “ปีศาจแดง” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ ของทีม ซึ่งเกมนี้ โซลชา จะไม่มี เอริค ไบญี และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่จะได้ ลุค ชอว์ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม ส่วนอันเดร์ เอร์เรรา กลับมาซ้อมกับทีมไดแล้ว ในส่วนวิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ, คริส สมอลลิง น่าจะพร้อมลงคุมเกมรับ เช่นเดียวกับ พอล ป็อกบา มาร์คัส แรชฟอร์ด และอเล็กซิส ซานเชซ
โดยโอเล กุนนาร์ โซลชา กล่าวว่า หลังจากเกมที่แพ้เอฟเวอร์ตันมาขาดลอย 0-4 จะสร้างความมุ่งมั่นให้กับนักเตะกลับมาฮึดสู้เพื่อคว้าชัยชนะในเกมพบกับแมนฯซิตี้ ในคืนนี้ นอกจากเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีแล้ว ยังเป็นเกมที่ทีมต้องการ 3 แต้มเพื่อลุ้นพื้นที่อันดับ 4 ตามหลังเชลซี ทีมอันดับ 4 อยู่เพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น และเราผ่านเกมนี้ไปได้จะเล่นในบ้านพบกับเชลซีในเกมถัดไปวันที่ 28 เมษายนนี้ เกมนี้จึงเป็นเกมสำคัญ และเป็นการที่ท้าทายในการคุมทีม
ด้านทีมเยือน “เรือใบสีฟ้า” ที่กำลังลุ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เกมนี้โจเซป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในสภาพทีมค่อนข้างลงตัว แม้ว่าคลาดิโอ บราโว และเควิน เดอ บรอยน์ อาจจะไม่สมบูรณ์ แต่คนอื่นๆอย่าง จอห์น สโตนส์, อายเมริค ลาปอร์เต้ แฟร์นันดินโญ, ดาบิด ซิลบา และ เบร์นาโด้ ซิลวา รวมถึงแนวรุกอย่างสามประสาน ลีรอย ซาเน, ราฮีม สเตอร์ลิง และเซร์คิโอ อเกวโร ก็พร้อมลงสนามในเกมนี้
ซึ่งโจเซป กวาร์ดิโอลา เกมนี้ไม่ใช่เกมที่ง่าย แม้ว่าก่อนหน้านี้เคยนำทีมบุกมาชนะ แมนฯยู แต่สถานการณ์ตอนนั้นกับตอนนี้ต่างๆกัน แมนฯยู ต้องการ 3 คะแนนเพื่อทำอันดับติด 1 ใน 4 และเป็นเกมดาร์บี้แมตซ์ พวกเขาอาจจะกดดันน้อยกว่า เพราะทีมเราต้องการชัยชนะเพื่อกลับขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง หลังทำคะแนนตามหลังลิเวอร์พูล อยู่ 2 คะแนน ซึ่งเกมนี้จะอาจหมดสิทธิ์ใช้งานเควิน เดอ บรอยน์ กองกลางคนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ผู้เล่นคนอื่นๆก็พร้อมลงสนาม รวมถึงเกมนี้ ริยาด มาห์เรซ มิดฟิลด์ตัวรุกชาวแอลจีเรียอาจจะได้กลับมาลงสนาม หลังจากได้ลงสนามเพียงแค่ 13 นัดจาก 34 เกม ซึ่งแม้ว่าเจ้าตัวจะเรียกร้องขอย้ายทีมในฤดูกาลหน้าก็ตาม
สำหรับเกมนี้คาดว่าแมนฯยู จะเล่นระบบ 4-3-1-2 ดาบิด เด เคอา ลงเฝ้าเสา, แอชลีย์ ยัง ยืนแบ็คขวา คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ คริส สมอลลิง จับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ แบ็คซ้าย ลุค ชอว์ กองกลาง เนมานยา มาติช หรือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, พอล ป็อกบา, อันเดร์ เอร์เรรา โดยมี เจสซีย์ ลินการ์ด ยืนหน้าต่ำ ส่วนหน้าคู่วาง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อเล็กซิส ซานเชซ
ส่วนแมนฯซิตี้ คาดว่าจะใช้ เอแดร์สัน ลงเฝ้าเสา แบ็คขวา ไคล์ วอล์คเกอร์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟใช้ จอห์น สโตนส์ กับ อายเมริค ลาปอร์เต้, แบ็คซ้าย เบนจามิน เมนดี้ 3 ประสานปั้นเกมในแดนกลาง ใช้ แฟร์นันดินโญ, ดาบิด ซิลบา, แบร์นาร์โด้ ซิลวา ขณะที่ 3 ประสานในเกมรุก ลีรอย ซาเน, ราฮีม สเตอร์ลิง เซร์คิโอ อเกวโร
สถิติการพบกันของทั้ง 2 ทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯยู ชนะ 2 เสมอ 1 แมนฯซิตี้ ชนะ 2 โดยเกมล่าสุดพบกันในเลคแรกที่บ้านแมนฯซิตี้ ชนะ แมนนยู 3-1 เมื่อวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ขณะที่ย้อนสถิติไปก่อนหน้านี้ 43 ครั้ง หลังสุด แมนฯยู ชนะ 21 ครั้งแมนฯ ซิตี้ ชนะ 14 ครั้ง เสมอ 8 ครั้ง โดยแมนฯ ยูทำผลงานในบ้านชนะ 10 เกม ขณะที่แมนฯ ซิตี้ ออกไปเยือน ชนะ 8 ครั้ง
คืนนี้ต้องลุ้นดูว่าศึกดาร์บี้แมตซ์ จะเป็นฝั่งไหนที่จะเก็บ 3 คะแนน หรือจะแบ่งแต้มกันไป แต่ที่แน่ๆแฟนลิเวอร์พูลเชียร์แมนฯยูแน่นอน ขณะเดียวกันเวลา 19.00 น. ส่งกำลังใจเชียร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะลงสนามนัดที่ 4 บุกไปเยือนปักกิ่ง กั๋วอัน จากจีน ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก .-สำนักข่าวไทย