แนะลดเสี่ยงเดินทางช่วงสงกรานต์ “7 วันปลอดภัย”

12 เม.ย. – แนะลดความเสี่ยงเดินทางสงกรานต์ 7 วัน ปลอดภัย หากเมาไม่ขับ จูนอัพเครื่องยนต์ให้พร้อม


คุณผู้ชมหลายคนที่ไม่ทำงานในวันนี้ ก็เริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนา รถติดหลายเส้นทางกันเลย และสงกรานต์วันหยุดยาวก็เป็นการเดินทางที่ทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง 7 วันอันตราย



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ แถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์วันแรก คือเมื่อวานนี้ วันที่ 11 เมษายน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 468 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 46 คน ลดลง 2 คนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บมี 482 คน เพิ่มขึ้น 30 คน จากปีก่อน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ นครศรีธรรมราช 20 ครั้ง รองลงมาคือ เชียงใหม่ ลำปาง และนครราชสีมา จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ อุดรธานี  4 คน  มีผู้บาดเจ็บสูงสุด นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช

ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ มาจากเมาแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกำหนด ร่วมทั้งฝ่าสัญญาณจราจร รถจักรยานยนต์ ก็ยังนำเป็นอันดับหนึ่งในการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาคือ รถกระบะ

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เป็นห่วงเป็นใยวันนี้โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก ขอให้ทุกคนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปท่องเที่ยว ให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ

โดยประเทศไทยเป็นที่ทราบกันดี เราติดสถิติโลกในการเกิดอันตรายเสียชีวิตบนท้องถนนเป็นอันดับต้นๆของโลกปีที่แล้ว แม้จะอันดับดีขึ้นมาอยู่อันดับที่ 9  จากเคยอยู่อันดับที่ 2 ของโลก แต่ก็ยังนับว่าต้องหาทางป้องกันแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 ประเทศไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงถึง 20,169 คน (จากข้อมูล 3 ฐาน ของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด) สาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนประการหนึ่ง คือ เมาแล้วขับ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกรมการขนส่งทางบกรณรงค์ เรื่องนี้ต่อเนื่องและจากสถิติการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ส่งมาเบิกกับกรมควบคุมโรค ตั้งแต่เริ่มโครงการ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 – 31 มีนาคม 2562 มีผลการตรวจแอลกอฮอล์ 1,873 ตัวอย่าง พบว่าผู้บาดเจ็บมีแอลกอฮอล์ในเลือดกว่า 62% ของผู้บาดเจ็บที่ส่งตรวจทั้งหมด และเกินกว่ากฎหมายกำหนด 58% ในกลุ่มที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดมีผู้ที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงตั้งแต่ 100 mg% ขึ้นไป มากถึง 90%ของกลุ่มที่มีแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนด และมีแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 150 mg% ขึ้นไป 41% ซึ่งจากข้อมูลยังสะท้อนให้ทราบว่า ในผู้ขับขี่ที่ตรวจพบแอลกอฮอล์จะมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดถึง 94% ของผู้ที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดทั้งหมด

ที่สำคัญ และต้องย้ำเตือน ในปีนี้ เมาแล้วขับแล้วเกิดอุบัตุเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตในสงกรานต์ปีนี้ จะเท่ากับมีโทษ เจตนาฆ่า นับเป็นยาแรงที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อลดอุบัติเหตุโดย ใครขับรถเร็ว หรือเมาแล้วขับ จนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต จะถือว่าเป็นเจตนาฆ่า เล็งเห็นผล ส่วนผู้ที่นั่งรถไปด้วยนั้น และไม่ตักเตือน หรือห้ามปราม ผู้ขับรถที่เมา ก็จะเข้าข่ายผู้สนับสนุนให้เกิดเหตุ จะมีโทษหนัก และถูกดำเนินคดีเช่นกัน โดยกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้อง เช่น

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 ระบุว่า ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

ส่วนมาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

มาตรา 395 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้านกรมการขนส่งทางบก ได้คุมเข้มรถโดยสารสาธารณะได้กำหนดมาตรการในเชิงป้องกันด้วยการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจพนักงานขับรถและผู้ประจำรถทุกคนก่อนปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ หากตรวจพบพนักงานขับรถและผู้ประจำรถมีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจเกิน 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สั่งเปลี่ยนตัวและส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีเพื่อความปลอดภัย

จูนอัพเครื่องยนต์ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

อีกด้านหนึ่งที่ต้องรณรงค์ด้วยคือหากเดินทางแล้วง่วงอ่อนเพลีย ก็ควรพักแวะ ปั๊ม หรือเปลี่ยนคนขับ  รวมถึงการเตรียมรถให้พร้อม เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และความล่าช้าในการเดินทาง 5 จุดสำคัญทึ่ควรเช็ค ก็คือ ยางและล้อ ต้องอยู่ในสภาพปกติ น้ำมันเครื่องต้องดูเปลี่ยนถ่ายตามรอบที่กำหนด เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ระบบเบรก ผ้า เบรกต้องไม่บาง จานเบรกต้องไม่คด แล้วอย่าลืมสังเกตว่าเวลาเหยียบเบรกจนสุดแล้วรถมีอาการสั่นจนผิดปกติหรือไม่ ถ้าใช่ต้องรีบเข้าหาช่างผู้เชี่ยวชาญด่วนๆ แบตเตอรี่ ถ้ารถเริ่มสตาร์ทติดยาก ไฟที่ห้องโดยสารกับไฟหน้ารถเริ่มอ่อนลงให้เตรียมตัวเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เลย ระบบส่องสว่าง ทั้งเรื่องของไฟหน้ารถ ไฟท้ายรถ ไฟสูง ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ต้องมั่นใจว่าใช้งานได้ปกติ ยิ่งต้องเดินทางตอนกลางคืน .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านแม่ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง แจงเป็นเงินบุญ ปี 64 ขณะที่ “สามารถ” เผย “อยากพูด แต่พูดไม่ได้“

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้