เมืองทองธานี 21 ก.พ.- “จรุงวิทย์” เลขา กกต. ชี้แจงการส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพราะปรากฎหลักฐานชัดเจน ขณะที่พรรคพลังประชารัฐมีแต่คำร้องจึงต้องหาหลักฐาน
ที่อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีหากพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบจะต้องมีการแก้ไขบัตรเลือกตั้งหรือไม่ ว่า ถ้าผู้สมัครไม่ว่าพรรคใด ไม่ถูกประกาศรับรองเป็นผู้สมัครหรือถูกตัดสิทธิ์ในภายหลัง กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าผู้สมัครในเขตนั้น ๆ เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์รับสมัครรับเลือกตั้ง ใครกาบัตรก็จะกลายเป็นบัตรเสีย และอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบด้วย ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่มีการนำเครื่องลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ยังใช้บัตรเลือกตั้งอยู่เช่นเดิม
เมื่อถามว่าไทยรักษาชาติส่งคำชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว กกต.จะต้องมีคำชี้แจงอะไรเพิ่มหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับเรื่อง แต่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาวันที่ 27 ก.พ.
เมื่อถามถึงกรณีคำร้องให้ยุบพรรคพลังประชารัฐเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.แล้วหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบ อยากจะชี้แจงว่าการพิจารณาของ กกต.คืออำนาจของ กกต.เมื่อปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า สามารถส่งให้ศาลพิจารณาได้เลย ซึ่งกรณีที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพราะปรากฏหลักฐานให้ กกต.เห็นและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนกรณียื่นคำร้องมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองหรือให้กกต.นั้นยังไม่ปรากฏหลักฐาน ปรากฏแต่คำร้อง จึงต้องไปตรวจสอบหลักฐานเพื่อรวบรวมให้ กกต.พิจารณา ต้องเข้าใจว่าหลักฐานและคำร้องแตกต่างกัน
“ผมอยากอธิบายเรื่องกระบวนการให้เข้าใจเพราะมีการเปรียบเทียบว่าร้องแล้วทำไม่ไม่ยุบเลย ทีอันนี้ทำไมยุบเลย คาดว่าคำร้องของพลังประชารัฐจะเสนอให้ กกต.ภายใน 1-2 สัปดาห์” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องกระทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ดำเนินคดีอาญาอยู่ ถ้าศาลตัดสินค่อยมาว่ากันอีกที เพราะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ต่อข้อถามว่าหากนายธนาธรถูกฝากขังจะมีผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ถูกฝากขัง จำคุกโดยหมายของศาล ไปดูตัวบทอีกครั้ง
เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.พบว่ามีการแก้ไขข้อมูลผู้สมัครของบางพรรคการเมือง จะนำไปสู่การให้ใบส้มหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่มองถึงขนาดนั้น ในชั้นนี้เราทำข้อมูลจากฐานข้อมูลของ กกต.เกี่ยวกับนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อให้จังหวัดไปแถลงต่อศาลจังหวัดที่ทำหน้าที่แทนศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ว่าเหตุที่เราตัดสิทธิ์ไม่ประกาศชื่อของผู้สมัคร เพราะมีการไปแก้ไขข้อมูลในฐานข้อมูล ซึ่งข้อมูลในฐานข้อมูลจะมีการเชื่อมโยงระหว่างนายทะเบียนสมาชิกของพรรคกับฐานข้อมูลของ กกต. เช่น ถ้าจะกรอกข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองจะมีพาสเวิร์ดที่ให้ไว้กับนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง เมื่อกรอกแล้วมีการไปแก้ไขในบางส่วนหลังจากปิดให้แก้ไขแล้ว หลังจากนี้จะมีความผิดทางอาญาหรือไม่จะเป็นขั้นตอนถัดไปที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย