ทำเนียบฯ 11 ก.พ.-“วิษณุ” ย้ำ กกต. มีอำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ชี้ข้อบังคับพรรคไม่มีผลผูกพันกับผู้ถูกเสนอชื่อ รายละเอียดให้ พปชร.ชี้แจง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ที่อาจขาดคุณสมบัติ เนื่องจากขัดต่อข้อบังคับพรรค ว่า คำร้องของนายเรืองไกร แบ่งเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่เกี่ยวกับข้อบังคับพรรค ที่หาก กกต. ตรวจสอบรายละเอียดและมีการสอบถามข้อเท็จจริง ต้องให้พรรคพลังประชารัฐเป็นผู้ชี้แจงเอง เนื่องจากไม่ใช่ข้อกฎหมายและไม่ได้บัญญัติในรัฐธรรมนูญ
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนอีกกรณีที่มีการระบุว่านายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าของสื่อออนไลน์หลายชนิดนั้น ให้เป็นหน้าที่ของ กกต.ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาก กกต. ไม่ติดใจ เรื่องนี้ก็จบ แต่หากมีการสอบ ทางพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องมีการชี้แจง ทั้งนี้มองว่าข้อบังคับของพรรค เป็นสิ่งที่สมาชิกพรรคต้องปฏิบัติตาม แต่ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงไม่น่าจะมีผลผูกพันกัน
สำหรับข้อปฏิบัติตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าสามารถสวมใส่เสื้อของพรรคพลังประชารัฐร่วมกิจกรรมได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากเป็นในเวลาราชการ ถือว่าไม่สมควร แต่หากเป็นเวลานอกราชการนั้น ตนเองไม่ทราบ ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีได้ทราบข้อปฏิบัติที่ชัดเจน รวมถึงฝ่ายกฎหมายได้ให้คำแนะนำ จึงระมัดระวังเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยเห็นได้จากที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีไม่เคยสวมใส่เสื้อของพรรคพลังประชารัฐ ขณะเดียวกัน ทางแกนนำพรรค ไม่สามารถมาพบและหารือกับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายพรรค หรือการหาเสียงได้
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า กกต.มีอำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติต้องห้ามของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่เมื่อมีคำวินิจฉัยแล้ว จะถือเป็นที่สุดหรือไม่ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยชี้ขาด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าว่ากรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นลาออกจากตำแหน่ง จะพ้นความผิดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หาก กกต.พิจารณาเห็นว่าเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะลาออกไปก่อน ก็ไม่ถือว่าพ้นความผิด อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ เพราะคำวินิจฉัยจาก กกต.ยังไม่ถือว่าเป็นที่สุด ดังนั้น ทางพรรคสามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยคุ้มครองชั่วคราว ขณะเดียวกันหากมีความผิดจริง พรรคไทยรักษาชาติจะต้องยุติการหาเสียงและยุติกิจกรรมทางการเมืองก่อน
นอกจากนี้ นายวิษณุ ไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีข้อเสนอเรื่องการตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย