พาณิชย์ย้ำนำข้าวหอมพวงเวียดนามผสมไทยไม่จริง

นนทบุรี 29 ม.ค. – อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศระบุข่าวลือนำข้าวหอมพวงเวียดนามผสมข้าวหอมมะลิไทยไร้มูลความจริง ยืนยันมีระบบตรวจสอบเข้มงวดก่อนส่งขายต่างประเทศ 


นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยข่าวลือว่ามีการลักลอบนำพันธุ์ข้าวหอมพวงของเวียดนามมาปลูกและนำมาผสมใน “ข้าวหอมมะลิไทย” ไม่เป็นความจริง เหตุข้าวหอมมะลิไทยที่จะส่งออกต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ไม่ผ่านก็ส่งออกไม่ได้ แถมมีการสุ่มตรวจ DNA ตลอด ระบุผลการตรวจสอบทางกายภาพแตกต่างจากข้าวหอมมะลิไทยชัดเจน ขอทุกฝ่ายมั่นใจ จะไม่ปล่อยให้ข้าวชั้นพรีเมี่ยมของไทยเสียหาย 

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับการลักลอบนำพันธุ์ข้าวหอม Jasmine 85 หรือข้าวหอมพวงของเวียดนามเข้ามาปลูกในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันให้ผลผลิตอยู่ในพื้นที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ และทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าอาจจะมีการนำมาปลอมปนในข้าวหอมมะลิไทยส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ ว่า กรมฯ ขอยืนยันว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะในการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปจำหน่ายต่างประเทศมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก หากข้าวหอมมะลิไทยไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดก็ไม่สามารถส่งออกได้ 


สำหรับการกำกับดูแลการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเป็นสินค้ามาตรฐานมีขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพ ดังนี้ 1.เมื่อผู้ส่งออกประสงค์จะส่งออกข้าวหอมมะลิไทย จะต้องยื่นคำร้องต่อกรมฯ ขอให้ออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย และต้องแจ้งให้บริษัทผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (บริษัทเซอร์เวย์) เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้า 2.การตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทยดังกล่าวจะมีพนักงานตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (เจ้าหน้าที่ มส. กระทรวงพาณิชย์) ไปปฏิบัติราชการเพื่อกำกับการทำงานของผู้ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (เซอร์เวย์เยอร์) และนำตัวอย่างที่เซอร์เวย์เยอร์เป็นผู้จัดทำขณะปฎิบัติงาน เพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพ และ 3.เมื่อผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานจึงออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าให้ผู้ส่งออกใช้ประกอบพิธีการศุลกากรเพื่อส่งออกข้าวหอมมะลิไทยต่อไป 

ทั้งนี้ จะมีการติดตามกำกับดูแลและสุ่มตรวจสอบการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย โดยการสุ่มนำตัวอย่างข้าวที่เซอร์เวย์เยอร์นำส่งมายังสำนักงานมาตรฐานสินค้า และสุ่มซื้อข้าวที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ เพื่อนำมาตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวหอมมะลิไทยอย่างต่อเนื่องด้วย 

“กรมฯ ยืนยันว่าการนำข้าวชนิดอื่นมาปลอมปนกับข้าวหอมมะลิไทยไม่สามารถทำได้ในทางปฏิบัติ เพราะหากมีการปลอมปนจริงก็สามารถตรวจสอบได้ และไม่มีทางที่จะผ่านการตรวจสอบได้ ที่สำคัญเมื่อลองตรวจสอบข้าวหอมพวงของเวียดนาม พบว่ามีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างจากข้าวหอมมะลิไทยและข้าวหอมไทยโดยสามารถตรวจสอบได้ชัดเจน เนื่องจากข้าวหอมพวงมีเมล็ดสั้นกว่าข้าวหอมมะลิไทย อีกทั้งเมื่อตรวจสอบด้วยวิธีการตรวจสอบเมล็ดข้าวสุกที่ต้มในน้ำเดือด (การประเมินหาอุณหภูมิแป้งสุก) และวิธีการย้อมสีด้วยสารละลายไอโอดีน (ตรวจหาข้าวนุ่ม) จึงไม่สามารถนำมาปลอมปนกับข้าวหอมมะลิไทย หรือแม้แต่ข้าวหอมไทยได้” นายอดุลย์ กล่าว 


อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเชื่อมั่นในการกำกับดูแลการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย ซึ่งมีการกำหนดกระบวนการขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพไว้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าการปลอมปนข้าวหอมพวงของเวียดนามไปกับการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยทำได้ยาก เนื่องจากสามารถตรวจสอบได้ทันที และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย กรมฯ จะได้ตรวจสอบและกำกับดูแลการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษามาตรฐานและราคาให้สมกับเป็นข้าวพรีเมี่ยมชั้นเลิศของไทยในตลาดโลกต่อไป

สำหรับมาตรฐานข้าวไทยปัจจุบันแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ข้าวหอมมะลิไทย เป็นสินค้ามาตรฐานโดยมีการกำกับดูแลและควบคุมคุณภาพมาตรฐานตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าขาออก พ.ศ.2503 กำหนดให้ต้องมีข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 หรือ กข15 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้การรับรับรองต้องมี Purity ไม่น้อยกว่าร้อยละ 92 โดยปริมาณเพียงชั้นเดียวใช้ชื่อภาษาไทยว่า “ข้าวหอมมะลิไทย” ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “THAI HOM MALI RICE” และสามารถขออนุญาตใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย (ตรารวงข้าว) ที่กรมการค้าต่างประเทศประชาสัมพันธ์และจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าไว้ 48 ประเทศทั่วโลก เพื่อเป็นการรับรองว่าผู้บริโภคจะได้บริโภคข้าวหอมมะลิไทยที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยมและจากประเทศไทยอย่างแท้จริง เนื่องจากมีกระบวนการติดตาม กำกับดูแล และตรวจย้อนกลับ 

2.กำหนดมาตรฐานข้าวหอมไทย เป็นมาตรฐานสมัครใจ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการส่งออกและเป็นมาตรฐานข้าวหอมเกรดรองจากมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย (Fighting Brand) สำหรับตอบสนองความต้องการของตลาดและรสนิยมของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายในราคาที่เหมาะสม โดยมีข้าวหอมไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยปริมาณมีอมิโลสไม่เกินร้อยละ 20 ใช้ชื่อภาษาไทยว่า “ข้าวหอมไทย” และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “THAI JASMINE RICE หรือ THAI FRAGRANT RICE หรือ THAI AROMATIC RICE หรือชื่ออื่นที่มีความหมายเดียวกัน และ 3.มาตรฐานสินค้าข้าว (ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวเหนียวขาว และข้าวนึ่ง) เป็นมาตรฐานสมัครใจ ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์การผลิต การค้า และการส่งออกข้าวในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ยอดการส่งออกข่าวไทยในช่วงปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 11 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5,623 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิไทยกว่า 1.6 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,604 ล้าน และปี 2562 คาดว่าจะส่งออกข้าวไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน โดยเกือบ 1 เดือนมกราคม 2562 ไทยส่งออกข้าวแล้วกว่า 820,000 ตัน ซึ่งราคาข้าวหอมโดยเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ตันละ 1,031-1,070 ดอลลาร์สหรัฐเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต