บอร์ด PPP เห็นชอบสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี

กระทรวงการคลัง 21 ม.ค. – คณะกรรมการ PPP เห็นชอบสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี มูลค่า  235,320  ล้านบาท เปิดทางเอกชนลงทุนระบบโยธาและบริหารการเดินรถ “สมคิด” มั่นใจจีดีพีปี 61 ยังไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 แม้ส่งออกชะลอลงบ้าง


นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ  (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบในหลักการโครงการให้เอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มูลค่าเงินลงทุนรวม 235,320 ล้านบาท กำหนดให้อยู่ภายใต้มาตรการ PPP FastTrack  รูปแบบ PPP NetCost ภาครัฐลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนตะวันตก ส่วนภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการส่วนตะวันตก และค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทาง โดยมีระยะเวลาเดินรถ 30 ปี เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการส่วนตะวันออก

ทั้งนี้ เอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร รายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมด โดยภาครัฐไม่มีภาระสนับสนุนทางการเงินให้แก่ภาคเอกชน  ในส่วนงานระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า และงานเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาของสายสีส้มตลอดทั้งเส้นทาง  หวังเชื่อมโยงการเดินทางของกลุ่มผู้โดยสารในเขตที่อยู่อาศัยชานเมือง ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก  และบรรเทาปัญหาการจราจรแออัดภายในเมือง  นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ  PPP มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการภายใต้มาตรการ PPP FastTrack ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลา โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – วงแหวนกาญจนาภิเษก มูลค่ารวม 128,235 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถนำเสนอคณะกรรมการ PPP ได้ภายในต้นปี 2562  


นอกจากนี้ คณะกรรมการ PPP เห็นชอบให้โครงการการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ตามเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน  จึงเห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัย มูลค่าโครงการรวม 4,235 ล้านบาท เป็นโครงการขนาดกลาง เพราะมูลค่า 1,000–5,000 ล้านบาท  เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การส่งออกเดือนธันวาคม 2561 มีมูลค่า 19,381  ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบร้อยละ 1.72 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ทำให้การส่งออกทั้งปีขยายตัวร้อยละ 6.7 ไม่เป็นตามเป้าหมายร้อยละ 8  การขยายตัวระดับดังกล่าวถือว่ายังพอใจ  เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว คาดว่าการส่งออกชะลอตัวคงไม่กระทบต่อการขยายตัวของจีดีพีมากนัก ยังคาดว่าจีดีพีปี 2561 ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 เพราะยังมีเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกหลายตัว ทั้งการลงทุนภาครัฐ และเอกชนหลายโครงการ รวมถึงการส่งเสริมกำลังซื้อในประเทศ ทั้งการท่องเที่ยว การพัฒนาชุมชนให้มีกำลังซื้อในประเทศ  เศรษฐกิจในประเทศจึงมีความเข้มแข็งทดแทนการพึ่งการส่งออกชะลอลงได้  หากไม่ได้เริ่มในช่วงที่ผ่านมาป่านนี้มีปัญหาเยอะมากแล้ว จึงมองว่าเศรษฐกิจในประเทศเข้มแข็งรองรับปัญหาจากภายนอกได้ดี  ดังนั้น โครงสร้างด้านการส่งออกต้องพัฒนาให้กว้างมากกว่านี้จะได้สร้างพลังต่อการส่งออกเพิ่มเติม แม้กระทรวงพาณิชย์จะตั้งเป้าหมายสูงไว้ถึงร้อยละ 8 เพื่อเป็นเป้าหมายของการทำงานเพื่อสร้างแรงผลักดันในการทำผลงาน .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย