กรุงเทพฯ 17 ม.ค.- ฎีกา พิพากษา แก้ จำคุก กำนันเซี๊ยะ และภรรยา 56 เดือน คดี บุกรุกที่ดิน สนง.ธนารักษ์ จ.กาญจนบุรี แต่จำเลยทั้งสอง ไม่มาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ศาลจึงให้ออกหมายจับ จำเลยทั้ง 2
ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็น โจทก์ยื่นฟ้อง นายประชา โพธิพิพิธ หรืออดีตกำนันเซี๊ยะ อายุ 75 ปี ผู้กว้างขวางใน จ.กาญจนบุรี และนางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา อายุ 52 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกและยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐในความครอบครองดูแลของรัฐ มากกว่า 50 ไร่ พื้นที่ จ.กาญจนบุรี ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 , 108 ทวิ และให้จำเลยทั้งสองกับบริวารออกจากที่ดินพิพาทด้วย
คดีดังกล่าว เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. 44 – 8 ก.พ. 45 ทั้งสองร่วมกันบุกรุกและยึดถือ ครอบครองที่ดินของรัฐ มากกว่า 50 ไร่ ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานธนารักษ์ พื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยแผ้วถางป่าและไถปรับพื้นที่ทำถนน สร้างบ้านพักอาศัย บ้านพักคนงานและคอกปศุสัตว์ในที่ดินเนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ โดยไม่มีสิทธิและไม่ได้รับอนุญาต ที่หมู่ 2 ต.ช่องด่านและหมู่ที่ 2 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดีมาโดยตลอด อ้างไม่มีเจตนาบุกรุกที่ดินพิพาทดังกล่าว
โดยวันนี้ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาฎีกาครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการอ่านลับหลังจำเลย เนื่องจากจำเลยทั้ง สองหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา โดยศาลฎีกา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำต่อสู้ของจำเลยที่อ้างว่าไม่รู้กฎหมายที่ดิน และไม่รู้ว่าเป็นที่ดินสาธารณะสมบัติ ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากมีการประกาศให้กับสาธารณะชนทราบ ส่วนข้อต่อสู้จำเลยที่อ้างว่าพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจในการแจ้งความดำเนินคดี นั้น ศาลเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีความผิดต่อรัฐ พนักงานสอบสวนมีสิทธิแจ้งความดำเนินคดีเองได้ ข้อต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้นศาลฎีกาไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสอง
จึงพิพากษาแก้ ให้จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินและประมวลกฎหมายอาญา รวม 7 กรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด จำคุกคนละกระทงละ 1 ปี ลดโทษให้คนละกระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 56 เดือน และให้นับโทษจำคุกจำเลยที่หนึ่ง ต่อจากคดีบุกรุกที่อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ที่ศาลอาญาจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา และ คดีที่จำเลยทั้งสองคน ถูกพิพากษา คดีฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างต่างๆในจังหวัดกาญจนบุรี จำเลยที่ 1 เป็นเวลา5 ปี จำเลยที่ 2 อีก 4 ปี และให้ยกเลิกหมายจับเดิม ในชั้นอุทธรณ์ และออกหมายจับใหม่
สำหรับคดีนี้ศาล ชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อ 24 มี.ค.58 ให้จำคุกจำเลยทั้งสอง คนละ 11 ปี 4 เดือน และให้จำเลยทั้งสอง รวมทั้งบริวารออกจากที่ดินดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ให้นับโทษ “นายประชา จำเลยที่ 1 ร่วมกับคดีบุกรุกที่ดิน อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ที่ศาลอาญาให้จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญาด้วย ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์คดีซึ่งระหว่างอุทธรณ์จำเลยทั้งสองได้ประกันตัวคนละ 1 ล้านบาท และมีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึง 2 ครั้งเนื่องจากจำเลยไม่มาศาล
กระทั่งวันวันที่ 8 ส.ค.59 ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย มีคำพิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสองเนื่องจากพฤติการณ์มีเหตุให้จำเลยทั้งสองเข้าใจโดยสุจริตว่า จำเลยมีสิทธิที่จะกระทำได้ จึงขาดเจตนาในการกระทำผิด.-สำนักข่าวไทย