หนุนแนวคิด “สมชัย” ให้ส่ง คสช.-สนช.แก้เบอร์ ส.ส.แบบพรรคเดียวเบอร์เดียว

พรรคเพื่อไทย 20 ธ.ค.-“ภูมิธรรม” หนุนแนวคิด “สมชัย” ให้ กกต.ส่งเรื่องไป คสช.-สนช. แก้เบอร์ ส.ส.แบบพรรคเดียว-เบอร์เดียว แนะ สนช.ถก 3 วาระรวด เผยเตรียมคุย 3 ชื่อนายกฯ พรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) จี้ กกต.-ป.ป.ช. สอบ พปชร.จัดโต๊ะระดมทุน


นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย สนับสนุนแนวคิดของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แนะนำให้ กกต.ชุดปัจจุบันเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แก้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือเสนอให้ คสช. ใช้มาตรา 44 เพื่อให้หมายเลขผู้สมัครเลือกตั้ง เป็นแบบพรรคเดียวเบอร์เดียวทั่วประเทศ เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่เป็นบัตรใบเดียว ได้สะท้อนการตัดสินใจของประชาชน 3 เรื่อง ได้แก่ การเลือกนายกรัฐมนตรี การเลือกพรรคการเมือง และการเลือก ส.ส. จึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่รัฐธรมนูญกลับกระจายเบอร์ จนอาจทำให้เกิดความสับสน ไม่สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนได้ และพรรคเพื่อไทยไม่ได้มองว่าพรรคขนาดเล็ก หรือพรรคขนาดใหญ่จะได้ประโยชน์ เพราะทุกฝ่ายย่อมได้ประโยชน์ และการมีพรรคเดียวเบอร์เดียวนั้น จะง่ายทั้งการจัดพิมพ์บัตร และง่ายต่อการตัดสินใจของประชาชน

ส่วนข้อกังวลว่าการแก้ไขกฎหมายจะใช้เวลานาน จนอาจทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า มั่นใจว่ารัฐบาลมีช่องทางดำเนินการอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมา มีการใช้อภินิหารทางกฎหมาย หรือจะใช้การพิจารณาของ สนช. แบบ 3 วาระรวดก็ได้


นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการเปิดกว้างของ กกต. ให้ผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งจากต่างชาติ มาสังเกตการณ์ในช่วงการเลือกตั้งปีหน้า ว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติของประเทศประชาธิปไตย เพราะทุก ๆ ประเทศที่มีเจ้าหน้าที่ องค์กร หรือนักการทูตเข้าไปสังเกตการณ์นั้น จะทำให้ประชาชนมั่นใจว่าผลการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส เกิดการยอมรับ เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งหน่วยงานที่เข้ามาก็ไม่ได้แทรกแซง และปฏิบัติตามอำนาจอธิปไตยของไทย จึงถือเป็นผลดีมาก ๆ ที่จะทำให้ประเทศเกิดความเชื่อมั่น แต่ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงรัฐบาลเองยังกังวล หรือเกรงกลัวเหตุใด เพราะยิ่งสถานการณ์พิเศษเช่นนี้ ยิ่งควรจะทำให้เกิดความโปร่งใสขึ้น ลดข้อสงสัยที่จะเกิดขึ้นตามมา และการเลือกตั้งปี 2554 หรือ 2557 ก็ไม่เคยมีการปิดกั้น

นายภูมิธรรม ยังเปิดเผยความคืบหน้าการคัดสรรบุคคลเพื่อส่งลงสมัครเลือกตั้งว่า ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ครั้งที่ 2 ที่จะพิจารณารายชื่อชุดแรกเพื่อพิจารณาคุณสมบัติขั้นต้น คาดว่าต้นปีหน้าจะมีความชัดเจน ส่วนบัญชี 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น จะเปิดเผยหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งทั่วไป แต่ในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) จะมีการพูดคุยกันในการประชุมก่อนเบื้องต้น รวมถึงพรรคจะเชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั่วประเทศ มารับฟังการชี้แจง ทำความเข้าใจเรื่องระเบียบการหาเสียง และจะเปิดเผยผลสำรวจสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ที่ประชาชนมีความยากลำบาก ต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อลดลง ซึ่งสวนทางกับการออกมาให้ข้อมูลของรัฐบาล พรรคจึงจะนำข้อมูลที่ได้เผยแพร่ให้ว่าที่ผู้สมัคร และประชาชนได้เห็นถึงสาเหตุความไม่เข้าใจต่อการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ ขาดวิสัยทัศน์ ไม่มีความเป็นอาชีพ

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการระดมทุนของพรรคเพื่อไทย ว่า อาจจะใช้วิธีการรับบริจาคแทน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบ เพราะเตรียมการไม่ทัน และจะแตกต่างกับที่พรรคพลังประชารัฐดำเนินการ เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐดูเหมือนมีญาณวิเศษ ที่รู้ว่าควรจะต้องเตรียมการอย่างไร แต่พรรคการเมืองอื่น ๆ เตรียมการได้ยาก เพราะไม่มีโอกาสทราบล่วงหน้าว่าจะมีการปลดล็อคเมื่อใด และเมื่อมีการปลดล็อคแล้ว การเตรียมการต่าง ๆ ก็ไม่ทันแล้ว


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตามกฎหมายพรรคการเมือง การระดมทุน สามารถทำได้ก่อนประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ซึ่งตามกำหนด คาดว่าจะประกาศในวันที่ 2 มกราคม 2562 ก็จะไม่ทันการ ขอตั้งข้อสงสัยต่อการระดมทุน จัดโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ ที่ขายโต๊ะจีน 3 ล้านบาท จำนวน 200 โต๊ะว่าอาจสวนทางกับชีวิตของประชาชนที่ยังยากลำบาก จึงอาจสะท้อนได้ว่าพรรคพลังประชารัฐมีศักยภาพ ทั้ง ๆ ที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องยังพูดเรื่องความยากจนของประชาชนอยู่ ซึ่งชี้ได้เห็นได้ชัดเจนว่าในสังคมยังมีความเหลื่อมล้ำ และสนับสนุนให้ กกต. และคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการระดมทุนดังกล่าว หลังพบข้าราชการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในปัจจุบันไปซื้อเก้าอี้ด้วย เพราะการจ่ายเงิน 300,000 บาท เพื่อไปรับประทานอาหารเพียง 1 มื้อ ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดปกติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”