เวียงจันทน์ 8 ก.ย.-นายกรัฐมนตรีหนุนตั้งศูนย์ US-ASEAN Connect ขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ขณะที่โอบามาย้ำความสำคัญของอาเซียน พร้อมมุ่งมั่นเสริมสร้างความร่วมมือใกล้ชิดต่อไป
มนชนก พัฒนพงศ์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 – 29 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน นี้ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหรัฐฯ ครั้งที่ 4 ร่วมกับผู้นำอาเซียน และนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ริเริ่มนโยบายปรับสมดุล ให้ความสำคัญต่อภูมิภาคนี้ และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้ง จัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ที่ซันนี่แลนด์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ยกระดับความสัมพันธ์เข้าสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อต่อยอดข้อริเริ่มสำคัญประการหนึ่งของประธานาธิบดีโอบามา ที่ซันนี่แลนด์ ประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ต่อการเร่งจัดตั้งศูนย์ US-ASEAN Connect โดยเฉพาะการขยายความร่วมมือด้านพลังงาน ผ่านหน่วยงานของสหรัฐฯ ที่กรุงเทพฯ และเสนอให้อาเซียนและสหรัฐฯ ใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานภายใต้ US-ASEAN Connect ในการสร้าง “Creative ASEAN” ที่ให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันทุกประเทศในโลกมีความเกี่ยวพันกันยิ่งขึ้น และมีปัญหาหรือความเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคมที่คล้ายคลึงกัน จึงต้องปรับกระบวนทัศน์ให้สอดคล้องกับบริบทโลก และเพื่อรับมือกับเรื่องดังกล่าว ประเทศไทยจึงมีโมเดลประเทศไทย 4.0 เพื่อปรับเปลี่ยนประเทศไปสู่เศรษฐกิจ ที่มีผู้ประกอบการเป็นผู้ขับเคลื่อน โดยใช้เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดของอาเซียน ที่ผู้นำอาเซียนและสหรัฐฯ ได้หารือร่วมกันที่ซันนี่แลนด์ และหวังว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนประเทศสมาชิกอาเซียนพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
“เราไม่สามารถละเลยสิ่งท้าทายด้านความมั่นคงและความปลอดภัย ไทยจึงให้ความสำคัญต่อความร่วมมือ เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงทางไซเบอร์ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ การเตือนภัยล่วงหน้า การฟื้นฟูหลังภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการบริหารจัดการน้ำ นอกจากนี้ ไทยสนับสนุนการส่งเสริมความมั่นคงทางทะเล และการคลี่คลายปัญหาด้วยการเจรจาอย่างสันติวิธี” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มุ่งมั่นพัฒนาความร่วมมือกับภูมิภาคนี้ และร่วมกันวางแนวทางความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโอบามา กล่าวตอนหนึ่งในช่วงเปิดการประชุม ย้ำความสำคัญของอาเซียนที่เพิ่มมากขึ้นต่อภูมิภาคและโลก สหรัฐฯ จะมุ่งสานต่อความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์กับอาเซียนต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะอาเซียนเป็นกุญแจสำคัญของนโยบายปรับความสมดุลในภูมิภาคนี้ของสหรัฐฯ ขอให้มั่นใจว่าความสัมพันธ์และความร่วมือระหว่างสหรัฐฯ และอาเซียน จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา ขณะเดียวกันสนับสนุนคำตัดสินเกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาที่จะช่วยลดความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ และจะทำให้ภูมิภาคนี้มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยสหรัฐฯ สนับสนุนให้ใช้วิธีทางการทูตในการแก้ไขปัญหานี้ต่อไป.- สำนักข่าวไทย