เวลลิงตัน 24 พ.ย.- คณะนักวิทยาศาสตร์เผยว่า แผ่นดินไหวใหญ่เมื่อสองปีก่อนทำให้เกาะเหนือและเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น และทำให้เมืองหนึ่งจมทะเลลงอีก
นักวิทยาศาสตร์ของจีเอ็นเอสไซเอินซ์ องค์การวิจัยธรณีศาสตร์ของรัฐบาลนิวซีแลนด์เผยว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อคืนวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ดันให้เกาะเหนือและเกาะใต้ขยับเข้าหากัน หลังจากนั้นรอยเลื่อนที่ยังไม่นิ่งหลายรอยก็ดันเกาะใต้ขยับขึ้นไปทางเหนือมากขึ้น ทำให้ทั้งสองเกาะใกล้กันมากกว่าเดิม 35 เซนติเมตร อย่างไรก็ดี ช่วงห่างระหว่างกรุงเวลลิงตัน ทางใต้สุดของเกาะเหนือกับแหลมแคมป์เบลล์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะใต้ยังคงห่างกันอยู่ไม่ต่ำกว่า 50 กิโลเมตร นอกจากนี้แผ่นดินไหวยังทำให้เมืองเนลสันที่อยู่ทางเหนือสุดของเกาะใต้จมทะเลลง 10-20 มิลลิเมตร แม้ไม่มากแต่สามารถสังเกตเห็นได้
นักวิทยาศาสตร์เผยว่า แผ่นดินไหวครั้งนั้นทำให้รอยเลื่อนอย่างน้อย 25 รอยแตก ส่งผลให้ยากจะแยกแยะได้ว่ารอยเลื่อนใดจะทำให้แผ่นดินไหวตามมาในภายหลัง ปกติแล้วแผ่นดินไหวที่มีขนาดตั้งแต่ 7.5 ขึ้นไปถือเป็นแผ่นดินไหวที่มีความซับซ้อนอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่ทำให้รอยเลื่อนแตกพร้อมกันถึง 25 รอย แผ่นดินไหวเมืองไคคอราเกิดขึ้นหลังเที่ยงคืนวันที่ 14 พฤศจิกายนสองปีก่อนเริ่มจากกลางเกาะใต้ขึ้นไปถึงช่องแคบคุ้กเป็นระยะทาง 170 กิโลเมตรภายในเวลา 74 วินาที
นิวซีแลนด์ตั้งอยู่ในบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกอินโด-ออสเตรเลียชนกับแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิก อันเป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนแห่งไฟ ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวปีละไม่ต่ำกว่า 15,000 ครั้ง ในจำนวนนี้ 100-150 ครั้งรุนแรงถึงขั้นรู้สึกได้.-สำนักข่าวไทย