กรุงเทพฯ 24 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีย้ำ 4 มาตรการ ช่วยลดภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย เริ่ม ธ.ค.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ว่า การอยู่ร่วมกันในสังคมจำเป็นต้องเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข โดยเฉพาะความทุกข์ที่เป็นผลมาจากการขาดโอกาสในอดีต หรือเลือกเกิดไม่ได้ ซึ่งเขาเหล่านั้นต้องการโอกาสตั้งตัว หรือการผ่อนปรนภาระบางส่วน ซึ่งรัฐบาลพยายามจะปรับมาตรการให้ตรงจุด ตรงความเดือดร้อนของแต่ละกลุ่ม ล่าสุดมีมาตรการเพิ่มเติมอีก 4 มาตรการ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยได้อย่างยั่งยืน
สำหรับ 4 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการช่วยเหลือค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า เป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่ผู้มีรายได้น้อยใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดกัน 3 เดือน จะมีสิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีแล้ว ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยเหลือผู้ที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย แต่ไม่เกิน 230 บาทต่อเดือน และน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน ซึ่ง 1 ครัวเรือน ใช้ได้เพียง 1 สิทธิ์ โดยให้ไปชำระค่าน้ำ-ค่าไฟตามปกติ พร้อมกับยื่นบัตรสวัสดิการ จากนั้นภาครัฐจะโอนเงินคืนไปยังกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถถอนเงินสดออกมาได้ในเดือนถัดไป มาตรการชั่วคราวนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ถึงเดือนกันยายน 2562 คิดเป็นระยะเวลา 10 เดือนเท่านั้น
2.การสนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปี คนละ 500 บาท เฉพาะเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว จะมีการโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้มีรายได้น้อยเพิ่มผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงสิ้นปี 3. ค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ คนละ 1,000 บาท สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการฯ ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป โดยจะได้รับเพียงครั้งเดียวในเดือนธันวาคมนี้ สามารถใช้วงเงินนี้ได้จนถึงเดือนกันยายนปีหน้า และ 4.ค่าเช่าบ้าน คนละ 400 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะได้รับเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ถึงเดือนกันยายนปีหน้า
ทั้งนี้ การเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ จากทั้ง 4 มาตรการนี้ ผู้มีรายได้น้อยสามารถถอนเป็นเงินไปใช้จ่ายได้ เหมือนบัตร ATM โดยใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม.-สำนักข่าวไทย