นราธิวาส 11 ก.ย.- แรงงานไทย-มุสลิมแห่กลับภูมิลำเนาเตรียมฉลองฮารีรายอ ด่านชายแดนนราธิวาสเนืองแน่น ตม.ต้องเพิ่ม จนท.ให้บริการ ส่วนร้านทอง-คิวรถตู้โดยสารคึกคัก รวมทั้งหาดใหญ่นักท่องเที่ยวมาเลย์หนาตา คาดเงินสะพัดเกิน 50 ล้านบาท
บรรยากาศตามด่านพรมแดนทั้ง 3 แห่ง ในจังหวัดนราธิวาส คือ ด่านอำเภอสุไหงโก-ลก ด่านพรมแดนบ้านตาบา อ.ตากใบ และด่านบ้านบูเกะตา อ.แว้ง ทั้ง 3 ด่านอยู่ตรงข้ามเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พบว่าตั้งแต่เช้าชาวไทยมุสลิมที่ไปทำงานทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างหนาตา เพื่อเตรียมตัวฉลองเทศกาลฮารีรายออีดิลอัฎฮา หรือรายอฮัจยี ซึ่งตรงกับวันที่ 12 ก.ย.นี้ ทำให้ประชาชนมาเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอการประทับตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้จัดบุคลากรมาอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ และมีมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มงวด รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัย เพื่อป้องปรามเหตุก่อกวน
ขณะที่คิวรถตู้โดยสารประจำทาง สุไหงโก-ลก-หาดใหญ่ รวมทั้งยะลาและปัตตานีมีผู้มาใช้บริการอย่างเนืองแน่นจนไม่เพียงพอ ผู้ประกอบการต้องเพิ่มรถตู้มาอีกนับสิบคัน
ส่วนตามร้านทองเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสคึกคักเช่นกัน ช่วงนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิมที่มาเลือกซื้อเครื่องประดับเตรียมไว้ใส่ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเป็นความเชื่อที่จะต้องสวมของใหม่เพื่อเป็นสิริมงคล ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า หรือเครื่องประดับ
ด้าน จ.สงขลา ย่านการค้ากลางเมืองหาดใหญ่คึกคักอย่างเห็นได้ชัด นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หน่วยกำลังทั้งอาสารักษาดินแดน และทหารดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด ทั้งเดินลาดตระเวนและตรวจตรารถทุกชนิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
นายสุรพล กำพลานนท์วัฒน์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา คาดว่าช่วงเทศกาลจะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังคงเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย